เหตุสู้รบรอบใหม่ในอเลปโป ทำยอดผู้ลี้ภัยซีเรียที่รอเข้าตุรกีพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่า
เจ้าหน้าที่ตุรกี เปิดเผยว่า เหตุการณ์สู้รบครั้งใหม่ระหว่างรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มกบฏในเมืองอเลปโปทางภาคเหนือของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่พยายามข้ามพรมแดนเข้าไปในตุรกีเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดกิลิส ของตุรกีซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนติดกับซีเรีย ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ลี้ภัยราว 35,000 คน มาออกันอยู่ที่จุดผ่านแดนเพื่อรอข้ามเข้าไปยังตุรกี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าที่ประเมินไว้เมื่อวันศุกร์ (5 ก.พ.) ว่าจะมีราว 20,000 คน
ทางการตุรกี ระบุว่า ได้เตรียมให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ภายในซีเรีย แม้ว่าปัจจุบันยังไม่ยอมเปิดพรมแดนให้ผู้ลี้ภัยเข้าประเทศก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมา ตุรกีได้จัดหาอาหาร ที่พักพิง และผ้าห่มให้แก่พลเรือนซีเรียหลายพันคนที่รอเดินทางข้ามแดนเข้าไปในตุรกี
ผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้หลบหนีภัยการสู้รบระลอกใหม่ระหว่างกองทัพรัฐบาลซีเรียที่โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏใกล้กับเมืองอเลปโป ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของซีเรีย โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กองทัพซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศจากรัสเซียสามารถรุกคืบเข้าไปในหลายพื้นที่รอบเมืองอเลปโป
ด้านกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ระบุว่า การสู้รบเมื่อวันศุกร์ทำให้ฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มกบฏเสียชีวิตไปอย่างน้อย 120 คน ขณะที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวหาว่าการโจมตีของรัสเซียทำลายความพยายามสร้างสันติภาพในซีเรีย แต่รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ทั้งสหภาพยุโรป (อียู) และรัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ต่างเรียกร้องให้ตุรกีเปิดพรมแดนรับผู้ลี้ภัยตามข้อตกลงที่ทำขึ้นในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า ปัจจุบันตุรกีรับชาวซีเรียกว่า 2 ล้านคนเข้าประเทศนับแต่สงครามกลางเมืองในซีเรียเริ่มปะทุขึ้น และยังไม่ชัดเจนว่าจะยอมเปิดรับผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่เข้าไปในคราวเดียวหรือไม่
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ปะทุขึ้นเมื่อปี 2554 ทำให้ชาวซีเรียหลบหนีออกนอกประเทศราว 4.6 ล้านคน และอีก 13.5 ล้านคนที่ยังอยู่ในประเทศต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ส่วนตุรกีรับผู้ลี้ภัยไปมากที่สุดคือราว 2.5 ล้านคน
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น