ยามวิกฤติที่นักวิชาการจำนวนมาก นักการเมืองบางกลุ่ม ข้าราชการส่วนใหญ่ ชนชั้นนำ และผู้คนต่างๆ ในสังคมทำตัวเป็นไผ่ลู่ลม หรือทำตัวแบบเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ กับสถานการณ์บ้านเมืองและสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคมไทยที่กำลังเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้ ผมคิดว่าเราผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ต้องทำตัวยืนหยัด ไม่หวั่นไหว Bend ไปตามกระแสที่บิดเบี้ยวทั้งหลายในเวลานี้
นักการเมืองแบบประชาธิปัตย์นั้น ในทางการเมืองวันนี้ถือว่าตายแล้ว เพราะพวกเขาทำตัว พร้อมที่จะลู่ลม Bend ไปทางใดก็ได้ เพื่อให้พวกตัวเองได้อำนาจทางการเมือง แต่ผมไม่คิดว่าประชาชนในยุคนี้จะโง่เขลาเพียงพอที่พรรคนี้จะสามารถหลอกได้ทั้งหมด แม้จะสามารถ "หลอกคนใต้และคน กทม.ได้บางส่วนก็ตาม" แต่คนพวกนั้นก็ไม่ได้โง่ เพียงแต่มีผลประโยชน์ไปในทางเดียวกันเท่านั้นเอง
สังคมไทยวันนี้บิดเบี้ยว สับสน จนแทบจะไม่น่าเชื่อว่า เป็นแบบนี้ได้อย่างไร อะไรที่บังตา ปิดบังสติปัญญาและลดทอนปัญญาของคนจำนวนมากได้ขนาดนี้
หากคิดตามคำทำนายยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เรียกยุคนี้ว่า "ถิ่นกาขาว" แล้วเคยแปลกันมาแต่ก่อนว่า "ยุคที่พวกฝรั่งผิวขาว" เข้ามามาก วันนี้ชัดเจนว่า คำแปลนั้นผิดอย่างสิ้นเชิง "ถิ่นกาขาว" คือยุคที่คนจำนวนมาก เห็นผิดเป็นชอบ เพราะไม่มีทางที่ กาดำจะเป็นกาขาวได้ แต่เมื่อชนชั้นนำและผู้มีอำนาจทั้งหลาย "บอกว่า นี่คือกาขาว" คนจำนวนหนึ่งที่มีอำนาจมากพอสมควรในสังคม ก็พร้อมที่จะเชื่อว่า "มันคือกาขาว" อย่างแท้จริง ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงมันคือกาดำ
อะไรบังตาสังคมไทยขนาดนี้ นี่ขนาดอยู่ในโลกศตวรรษที่ 21 ยุคข้อมูลข่าวสาร สังคมออนไลน์ ความรู้สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้วกระดิก แต่คนจำนวนมากกลับไม่สามารถ "เข้าถึงปัญญาได้เลย" จิตใจเต็มไปด้วยอคติ จนยากที่จะสามารถมองโลกอย่างที่มันเป็นได้
คนอื่นอาจ Bend ลู่ลมได้ แต่เราอย่า Bend ไปตามแรงลม
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น