รัสเซียกล่าวหาตุรกียิงเครื่องบินตกเพราะต้องการปกป้องท่อส่งน้ำมันของกลุ่มไอเอส
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จัดขึ้นในกรุงปารีส ว่าเหตุการณ์ยิงเครื่องบินตกนี้เป็น “ความผิดพลาดอันใหญ่หลวง”
“เรามีเหตุผลทุกประการที่จะคิดว่าสาเหตุยิงเครื่องบินรบของเราตกนั้นมาจากความต้องการปกป้องท่อส่งน้ำมันในเขตแดนตุรกี” ประธานาธิบดี ปูติน กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 พ.ย. 2558) และเสริมว่ารัสเซียได้รับข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นหลักฐานว่ามีการขนส่งน้ำมันของไอเอสผ่านตุรกี
ด้านตุรกีปฏิเสธความสัมพันธ์กับกลุ่มไอเอส และยืนยันเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพันธมิตรที่มีสหรัฐเป็นแกนนำในการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายที่เป็นกลุ่มติดอาวุธไอเอส และรัฐบาลตุรกีปฏิเสธที่จะขอโทษสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว
จากเหตุการณ์ยิงเครื่องบินเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ มีนักบินของรัสเซียเสียชีวิตหนึ่งคน และนักบินอีกคนรอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้ ตุรกีอ้างว่าเครื่องบินรัสเซียได้บินล้ำเขตน่านฟ้าของตน ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่รัสเซียไม่ยอมรับ
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจากหลักฐานของตุรกีและสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าเครื่องบินรัสเซียล้ำน่านฟ้าของตุรกีจริง
อลิซาเบธ ทรูโด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ ต้องการ “กระตุ้นให้เกิดการเจรจาเดี๋ยวนี้…เราต้องการลดความขัดแย้งนี้”
รัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มกบฏต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรีย รวมทั้งกลุ่มไอเอส
ตุรกีเป็นศัตรูตัวฉกาจกับนายอัสซาด และเคยถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อกลุ่มนักรบญิฮาดที่ข้ามจากชายแดนตุรกีไปยังซีเรีย จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตุรกีลังเลที่จะมีบทบาทสำคัญในการร่วมกับพันธมิตรต่อต้านกลุ่มไอเอส อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตุรกียอมให้สหรัฐฯ เริ่มใช้ฐานทัพอากาศที่เมืองอินเซอร์ลิก
รัสเซียดำเนินการคว่ำบาตรตุรกีจากกรณีเครื่องบินถูกยิงตก รวมทั้งกีดกันการนำเข้าอาหารจากตุรกีและยกเลิกการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องใช้วีซ่า
ขณะที่กลุ่มไอเอสมีรายได้จากการขายน้ำมันโดยผิดกฎหมาย แต่ตุรกีปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวกับข้องใด ๆ กับการค้าน้ำมัน
ก่อนหน้านี้ นายอาห์เหม็ด ดาวูทโอลู นายกรัฐมนตรีตุรกีกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องเคราะห์ร้ายแต่ตุรกีมีสิทธิและหน้าที่ในการปกป้องน่านน้ำของตนเองและจะไม่ขอโทษ
ด้านรัสเซียขู่ว่าจะไม่นำเข้าสินค้าเกษตร ผักและผลไม้ จากตุรกี แม้ว่าจะมีการชะลอการกีดกันนี้ออกไปหลายสัปดาห์เพื่อ “ลดความตึงเครียด”
ในอดีต ตุรกีและรัสเซียมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รัสเซียเป็นคู่ค้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของตุรกี ขณะที่ตุรกีมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกว่าสามล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีเรเซบ เทยิบ เออร์โดแกน ของตุรกีกล่าวว่าประเทศตุรกีจะโต้ตอบ “อย่างอดทน โดยไม่ใช้อารมณ์” ก่อนตัดสินใจดำเนินการต่อมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของรัสเซีย
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น