วิจารณ์แซ่ด ตั้งที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ทีมงาน คนใกล้ชิด-เครือญาติ –ไร้ประโยชน์-เปลืองงบ ก้าวก่ายพนักงานประจำจริงตามข้อกล่าวอ้าง
แหล่งข่าวจากกกต.เปิดเผยถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างกกต.กับนายภุชงค์ ทั้งกกต.และนายภุชงค์ต่างก็เป็นปัญหาของสำนักงานในปัจจุบัน โดยนายภุชงค์ พบว่าการทำงานขาดการวางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน การทำงานตามภารกิจที่ได้ชูเป็นนโยบายไว้ตอนรับตำแหน่งไม่ก้าวหน้า ไม่มีความสำเร็จ การแต่งตั้งโยกย้าย พนักงานก็มีการร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการสนับสนุนแต่คนใกล้ชิดให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น ได้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ หรือเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ โดยในยุคของนายอภิชาติ สุขัคคานนท์ เป็นประธานกกต. ไม่เป็นปัญหา สามารถทำงานได้เข้าขากับตัวประธานกกต.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีปัญหากับกกต.คนอื่นเช่นกัน
ส่วนของกกต.ชุดปัจจุบัน การปฏิบัติงานก็มีการล้วงลูกจริง บางกรณีเป็นเพราะเลขาธิการกกต.ไม่ดำเนินการ ส่งผลให้กรรมการก็ต้องส่งคนของตนเองเข้าไปดำเนินการ โดยจะเป็นที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเข้าไปล้วงลูกในแต่ละด้านกิจการที่กรรมการของตนรับผิดชอบ ในการทำงานของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ อาทิ การกลั่นกรองบุคคลากรเข้าสู่ตำแหน่งก็จะมีการแต่งตั้งให้ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของกกต.แต่ละคนเข้าไปทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการพิจารณาแม้ว่าจะมีการวางหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการเข้าสู่ตำแหน่ง แต่การแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานหรือผู้บริหารระดับสูง ยังเป็นลักษณะวางคนใกล้ชิดให้ไปดำรงตำแหน่ง
ขณะที่การแต่งตั้งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ และทีมงานประจำกกต.แต่ละคน ก็ไม่เหมาะสม เกินความจำเป็น ตามที่นายภุชงค์ออกมาให้ข้อมูลว่าทำให้ต้องเสียงบประมาณถึงปีละ 24 ล้าน และเมื่อกกต. ชุดนี้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็พยายามเร่งรัดให้ทางสำนักงานดำเนินการออกระเบียบฯ ทั้งที่ขณะนั้นกกต.กำลังเผชิญปัญหาเรื่องการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 อีกทั้งยังมีการผลักดันให้มีการกำหนดจำนวนตำแหน่งที่มากขึ้น และอัตราค่าตอบแทนที่สูงกว่าที่กกต.ชุดก่อนในอดีตเคยปฏิบัติ โดยในกกต.ชุดก่อน ๆ จะกำหนดให้มี กกต.หนึ่งคนมีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ เท่านั้น โดยที่ปรึกษาจะได้รับค่าตอบแทนเพียงเดือนละ 3 หมื่นบาท ส่วนตำแหน่งอื่นนั้น ก็จะให้ทางสำนักงานคัดสรรพนักงานที่ปฏิบัติงานดีขึ้นไปทำหน้าที่
แหล่งข่าวกกต.กล่าวอีกว่า แต่กกต.ชุดปัจจุบัน กลับมีการกำหนดให้กกต.หนึ่งคนมีที่ปรึกษา 1- 2คน รับค่าตอบแทนคนละ 6 หมื่นบาท ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน ค่าตอบแทนคนละ 4 หมื่นบาท เลขานุการ 1 คน ค่าตอบแทน 45,000 บาท ผู้ช่วยเลขานุการ 2 คน ค่าตอบแทน 23,000 บาท คนขับรถ 15,000 และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 25,000 บาท และยังมีเงินเพิ่มและสวัสดิการประจำเดือนให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการของแต่ละคนอีกคนละ 5,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพของทุกคนปีละไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยต่างทั้งจำนวนคน และจำนวนเงินที่แต่ละคนได้รับ ซึ่งกกต.อ้างว่าที่ต้องให้มีการจ้าง เลขานุการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และคนขับรถส่วนตัว ก็เพราะไม่ไว้ใจ โดยบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งบางคน เป็นเครือญาติ หรือผู้มีพระคุณ ซึ่งก็ไม่ได้มีความรู้ ความสามารถที่เป็นประโยชน์กับงานกกต.และสำนักงาน ขณะที่บางคนก็เข้ามาในลักษณะก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานประจำกลาย เป็นปัญหาสำนักงาน ดังนั้น จึงมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น แม้จะกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร และอาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขององค์กรกกต. และก็น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เกิดการปฏิรูปองค์กรไปในทางที่ดีขึ้น
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น