ทนาย “อาเด็ม คาราดัก” เผยลูกความไม่เคยรับสารภาพวางระเบิดศาลพระพรหม

บีบีซีไทย - BBC Thai

ทนาย “อาเด็ม คาราดัก” เผยลูกความไม่เคยรับสารภาพวางระเบิดศาลพระพรหม 

นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเด็ม คาราดัก จำเลยที่ 1 ในคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) ลูกความของตนจะเดินทางไปยังศาลทหาร เพื่อรับฟังข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ผ่านมา นายคาราดักไม่เคยรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 แต่อย่างใด และในวันพรุ่งนี้จะให้การปฏิเสธในเกือบทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายคาราดักเองได้เดินทางเข้ามาในไทยหลังวันเกิดเหตุระเบิด

นายชูชาติ เปิดเผยกับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ว่า นายคาราดัก เดินทางเข้ามาในไทยเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2558

อัยการได้สั่งฟ้องนายคาราดัก เป็นจำเลยที่ 1 และนายยูซูฟู ไมไรลี เป็นจำเลยที่ 2 ใน 10 ข้อหา คือ 1. ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และใช้วัตถุระเบิดในการกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น 2. ร่วมกันพกอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร 3.ร่วมกันพยายามกระทำให้เกิดระเบิด 4.ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 5.ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและทรัพย์ของผู้อื่น 6.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 7.ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ 8.ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง 9.ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและ 10.เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายชูชาติ กล่าวว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับนายคาราดักในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้เล่าให้ฟังว่าถูกทรมานและทำร้ายร่างกาย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนจะแจกแจงรายละเอียดให้สื่อมวลชนทราบ สำหรับนายยูซูฟู จำเลยที่ 2 ในคดีนี้ หากจะให้การรับสารภาพในวันพรุ่งนี้ ศาลก็อาจจะแยกฟ้องไปเป็นคนละคดี

ด้านเว็บไวต์ นสพ.บางกอกโพสต์ รายงานอ้างคำพูด พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ที่ยืนยันว่า ไม่น่าจะมีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาในระหว่างที่ถูกคุมขัง โดยนับจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จำนวน 17 คน แต่จับกุมได้เพียง 2 คน#BangkokBombs