ธนาคารจีนถูกศาลเมืองแมนฮัตตันสั่งให้จ่ายค่าปรับรายวันกรณีขัดคำสั่งศาลที่ให้ส่งข้อมูลลูกค้าที่ขายสินค้าปลอม
ธนาคารแห่งประเทศจีนในสหรัฐจะต้องจ่ายค่าปรับรายวัน หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการให้ข้อมูลรายละเอียดของลูกค้าที่ขายสินค้าปลอม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศจีนถูกตั้งข้อหาละเมิดอำนาจศาลในเมืองแมนฮัตตัน กรณีปฏิเสธส่งมอบข้อมูล
แต่ธนาคารฯ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งละเมิดอำนาจศาลแพ่งและคำสั่งให้จ่ายค่าปรับวันละ 50,000 เหรียญสหรัฐ ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมนี้ โดยให้เหตุผลว่าการเผยข้อมูลลูกค้าจะเป็นการละเมิดกฎหมายของประเทศจีนที่คุ้มครองความเป็นส่วนตัวในเรื่องข้อมูล
คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 จากการฟ้องร้องคดีของกลุ่มผู้ขายสินค้าฟุ่มเฟือยรายย่อย รวมทั้งกุชชี่ และอีฟว์ แซ็ง โลร็อง ที่ฟ้องร้องกลุ่มบริษัทของจีนว่าขายสินค้าปลอม เช่น กระเป๋าถือ เป็นต้น
กลุ่มผู้ขายสินค้ายี่ห้อดังเหล่านี้ขอให้นาย ริชาร์ด ซัลลิแวน (Richard Sullivan) ผู้พิพากษาประจำเขตได้สั่งให้ธนาคารแห่งประเทศจีนจ่ายเงิน 12 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายจากการขายสินค้าปลอมหรือสั่งให้จ่ายค่าปรับ
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาซัลลิแวนสั่งให้ธนาคารแห่งนี้ส่งมอบข้อมูลลูกค้ามาตั้งแต่ปี 2554 และต่อมาได้ต่ออายุคำสั่งใหม่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า “การที่ธนาคารปฏิเสธที่จะทำตามกฎหมายของสหรัฐ ในขณะที่ยังได้ประโยชน์จากการดำเนินการทางธุรกรรมในประเทศสหรัฐนั้น เป็นการสร้างความเสียหายให้กับโจทก์และประชาชนทั่วไปอย่างมาก” และกล่าวว่า “การปรับเงินในอัตราสูงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดผลบังคับได้ในขั้นนี้”
ผู้พิพากษายังได้สั่งให้ธนาคารของจีนแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ติดอันดับหนึ่งในสี่ที่ทำรายได้เกือบ 28 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2557 จ่ายค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายให้กับบริษัทค้าปลีกเหล่านี้อีกด้วย แต่ธนาคารโต้ว่าผู้พิพากษาคนนี้ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการบังคับคดี
คำบรรยายรูป : ธนาคารแห่งประเทศจีนปฏิเสธให้ข้อมูลลูกค้าชาวจีนมาตั้งแต่ปี 2554
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น