การผลิตในภาคอุตสาหกรรมจีนหดตัวลงต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายการจัดซื้อไฉซิน (พีเอ็มไอ) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงสภาพเศรษฐกิจของจีนชี้ว่า กิจกรรมการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมจีนเกิดขึ้นต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี นับว่าเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนนี้ ดัชนีพีเอ็มไอลดลงแตะระดับ 47.1 จากเมื่อเดือนก.ค. ซึ่งที่อยู่ที่ 47.8 ถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 ที่เป็นช่วงเกิดวิกฤตการเงินโลก ทั้งยังเป็นการเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดติดต่อกันเป็นเดือนที่หกแล้ว
ตัวเลขล่าสุดนี้ส่งผลให้มีการเทขายหุ้นในตลาดจีน และดัชนีเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดปรับตัวลดลงกว่า 4% นักวิเคราะห์ชี้ว่าในความเป็นจริงเศรษฐกิจจีนขยายตัวน้อยกว่าที่ทางการระบุไว้ว่าอยู่ที่ 7% โดยเมื่อปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของจีนขยายตัว 7.4% ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา และเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 7.5%
นายนิโคลัส ทีโอ นักวิเคราะห์ด้านการตลาดของซีเอ็มซี บริษัททำธุรกรรมด้านการเงินเตือนว่า การถดถอยของเศรษฐกิจจีนอาจดับความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เขาชี้ว่าทุกวันนี้จีนไม่ได้เป็นเพียงแค่ “โรงงาน” ของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดผู้บริโภคที่สำคัญของภาคการผลิตและบริการของโลก บริษัทและอุตสาหกรรมหลายแห่งต่างพึ่งพาผู้บริโภคชาวจีนที่ตอนนี้มีกำลังซื้อลดลง “ดังนั้นเมื่อจีนจาม โลกทั้งโลกอาจติดไข้ได้”
อย่างไรก็ตามมีนักวิเคราะห์ที่มองว่าไม่ควรตื่นตระหนกกับสถานการณ์ในขณะนี้จนเกินไป นายเชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเอ็มพี แคปปิตอลชี้ว่า สถานการณ์ในขณะนี้เป็นการปรับตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก และตลาดเกิดใหม่มีความแข็งแกร่งกว่าเมื่อช่วงปี 2540-2541 มาก โดยมีดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีเสถียรภาพและเงินสำรองระหว่างประเทศในอัตราที่สูง




 
Top