สาวมุสลิมจากอัฟกานิสถาน เผยประสบการณ์ถูกกลุ่มขวาจัดในออสเตรเลียหลอกใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ
ราฮิลา ไฮดารี หญิงสาวมุสลิมชาวอัฟกานิสถานที่หลบหนีความโหดร้ายของกลุ่มตาลีบันมาอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย เผยประสบการณ์ที่เธอเผชิญหน้ากับกลุ่มขวาจัด United Patriots Front (UPF) แล้วถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่ม
ไฮดารี เล่าว่า ตอนที่กลุ่มต่อต้านศาสนาอิสลาม Reclaim Australia จัดการชุมนุมทั่วประเทศออสเตรเลียเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เธอนัดกับเพื่อนๆว่าจะไปร่วมแสดงพลังต่อต้านการชุมนุมดังกล่าวที่เมืองเพิร์ธ ทว่าเกิดเปลี่ยนใจแล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่ชุมนุมของกลุ่มต่อต้านอิสลามแทน ไฮดารี บอกว่า ในฐานะที่เป็นมุสลิม เธอต้องการอธิบายให้คนเหล่านี้เข้าใจว่า มุสลิมไม่ได้มีความคิดสุดโต่งไปเสียทุกคน และเธอก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คนเหล่านี้เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม ในการเผชิญหน้ากับสมาชิกกลุ่มขวาจัดครั้งนั้น ไฮดารี ได้พูดคุยกับแกนนำกลุ่ม UPF ซึ่งไปร่วมชุมนุมในวันนั้นด้วย โดย UPF เป็นองค์กรจากนครเมลเบิร์นที่มีแนวคิดต่อต้านศาสนาอิสลาม ผู้อพยพ และความเป็นพหุวัฒนธรรม โดยระหว่างที่พูดคุยกันเรื่องศาสนาอิสลามนั้น ไฮดารี รับฟังถ้อยคำที่คนเหล่านี้พูดถึงความเลวร้ายของศาสนาที่เธอนับถือด้วยความสุภาพและมีอารยะ และเมื่อจบการสนทนาแกนนำกลุ่มขอถ่ายรูปกับเธอ ซึ่งไฮดารี ตอบตกลงเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวใด ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังการสนทนาจบลง ไฮดารี ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายด้วยวาจา และในคืนเดียวกันนั้น กลุ่ม UPF ได้โพสต์ภาพของไฮดารีบนหน้าเฟซบุ๊กของกลุ่ม ซึ่งทำให้ไฮดารีตกใจ เพราะเธอรู้สึกว่า UPF ฉวยโอกาสใช้ภาพดังกล่าวเพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มดูลดความแข็งกร้าวลงในสายตาประชาชน ทั้งยังเป็นการสื่อสารว่า ข้อความต่อต้านอิสลามของกลุ่มสามารถดึงดูดผู้คนได้
เรื่องยังไม่จบเท่านั้น เพราะในวันถัดมา คริส ชอร์ติส โฆษก UPF ได้โพสต์วิดีโอการเผชิญหน้าของ ไฮดารี พร้อมกับข้อความที่ว่า ไฮดารี ยอมสยบให้กับความรู้เรื่องคัมภีร์กุรอ่านที่ช่ำชองกว่าของตน ทำให้คิดจะหันหลังให้ศาสนาอิสลาม แต่ ไฮดารีบอกว่า ตอนนั้นเธอเพียงต้องการแสดงความสุภาพ และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอมีความศรัทธาต่อศาสนาอิสลามมากขึ้น
บีบีซี พยายามติดต่อขอพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่ม UPF หลายครั้งแต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับใด ๆ
ไฮดารี เล่าว่าเธอและครอบครัวเป็นเหยื่อของกลุ่มก่อการร้าย ทำให้ต้องหลบหนีความโหดร้ายดังกล่าวมาอยู่ในออสเตรเลีย นับแต่มาอยู่ที่นี่ ไฮดารีก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ได้งานเป็นล่าม และล่าสุดได้มีโอกาสเป็นทูตขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) และรู้สึกว่าออสเตรเลียเป็นบ้านหลังใหม่ของตน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นั้น กลับทำให้เธอรู้สึกผิดหวังและรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกใช้ ไฮดารีกล่าวทิ้งท้ายว่า ศาสนาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ศาสนาเป็นเรื่องส่วนบุคคล และคนที่ต้องการทำร้ายผู้อื่นถือเป็นคนที่ไม่มีศาสนา
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น