ออสเตรเลียตั้งเป้าใหม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังต่ำกว่าหลายประเทศ
ออสเตรเลียวางแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 26% - 28% ของระดับในปี 2548 ให้สำเร็จภายในปี 2573 แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายของแคนาดา และสหรัฐฯ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าระดับดังกล่าวยังไม่มากพอในการปกป้องชาวออสเตรเลียจากผลกระทบของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ ระบุว่า ออสเตรเลียจะต้องปกป้องการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และว่าค่าใช้จ่ายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซให้ได้ 26% ภายในปี2573 นั้นจะคิดเป็น 0.2% - 0.3% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลีย
ทิม แฟลนเนอรี นักวิทยาศาสตร์จากองค์กรวิจัย Climate Council บอกว่า แม้ว่าออสเตรเลียจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายดังกล่าว แต่ก็ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนต่อคนมากกว่าสหรัฐฯ และ สหราชอาณาจักรอยู่มาก พร้อมชี้ว่าระดับดังกล่าวไม่เพียงพอในการช่วยให้โลกควบคุมปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ด้านสภาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า การจะควบคุมไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงเกิน 2 องศาเซลเซียสนั้นออสเตรเลียจะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 60% ของระดับในปี 2543 ให้สำเร็จภายในปี 2573 และว่า ออสเตรเลียปล่อยก๊าซมากเป็นอันดับที่ 13 ของโลกอีกทั้งยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการปล่อยก๊าซต่อคนสูงสุดในโลก
การประกาศเป้าหมายครั้งล่าสุดของออสเตรเลียมีขึ้นก่อนหน้าการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในกรุงปารีส ในเดือน ธ.ค.นี้เพื่อกำหนดแผนการใหม่เรื่องสภาพอากาศโลก ทั้งนี้ ออสเตรเลีย ยังพึ่งพาพลังงานส่วนใหญ่จากถ่านหินซึ่งก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเข้าถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลก

 
Top