กองทุน สสส.นั้น เป็น "บ่ออุจจาระ" ที่พวกเอ็นจีโอใช้ทำมาหารับประทานกันอย่างสุรุ่ยสุร่าย อิ่มหนำ ปากมัน กันมานานมาก ใครยื่นมือไปแตะ ก็จะแยกเขี้ยวขู่ตะคอก
ทำโครงการเสนอเข้าไป อนุมัติได้มาแล้ว ก็ใช้จ่ายเละเทะ ทั้งเงินเดือนที่ปรึกษาโครงการ หัวหน้าโครงการ นักวิจัย ผู้ช่วย เลขา ค่าเดินทางทั้งในประเทศและบินไปตปท. ฯลฯ ทั้งหมดคือเงินภาษีของปชช. ผลประโยชน์ไม่ได้ตกไปถึงเด็ก สตรี คนชรา คนป่วย ที่อ้างเอามาหากิน แต่คือผลประโยชน์ของพวกเอ็นจีโอที่ทำโครงการ
ตัวเอ็นจีโอก็ใช้ชีวิตสุขสบายแบบคนชั้นกลางระดับบน เดินทางไปตปท. ก็นั่งชั้นธุรกิจ ชั้นหนึ่ง มีเงินเก็บมากมายถึงขั้นส่งลูกไปเรียนตปท.ตั้งแต่ประถมจนจบมหาลัยเมืองนอก
แล้วยังใช้โครงการพวกนี้มาคุยอีกว่า พวกข้าเป็น "นักอุดมการณ์" เสียสละส่วนตัวทำเพื่อชาวบ้าน "คนเล็กคนน้อย" "คนด้อยโอกาส" เอาโครงการพวกนี้ไป "สะสมทุน" สร้างภาพ "เพื่อสังคม" จนเข้าตาพวกเผด็จการศักดินา ได้รับปูนบำเหน็จเป็น ที่ปรึกษา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้หน่วยราชการ ไปถึงสมาชิกวุฒิสภาลากตั้ง เวลารัฐประหาร ก็ได้ "ขึ้นวอ" เป็นสภาปฏิรูป สภานิติบัญญัติ ฯลฯ
กับพวกนักการเมือง เอ็นจีโอจะด่า เกลียด ขยะแขยง ต้องจับนักการเมืองเปลื้องผ้าตรวจสอบคนพวกนี้ทุกรูขุมขุน ตรวจเข้าไปจนถึงในรูทวาร แต่กลับพวกเอ็นจีโอด้วยกัน ห้ามสงสัย เพราะพวกข้าคือ "คนดี มีอุดมการณ์เพื่อสังคม" ไว้ใจให้กำเงิน ถลุงเงินปีละนับหมื่นล้านได้โดยไม่ต้องตรวจสอบ ไม่ต้องตั้งคำถาม
ที่มีคนเคยด่าคนพวกนี้ว่า "นายหน้าค้าความจน" นั้นยังน้อยไป เพราะจริง ๆ แล้วคนพวกนี้มันเป็น "กาฝาก ปลิงดูดเลือดคนจน" มากกว่า