0

"เป็น NGO นี่รวยไหม"

น้องคนหนึงที่ทำงานด้านสิทธิ เล่าว่าเพื่อนพนักงานบริษัทเอกชนถาม ...เพราะเห็นเพื่อนร่วมรุ่นที่ไปเป็น NGO (และเข้าไปมีตำแหน่งช่วงรัฐประหาร) เพิ่งซื้อบ้านหลังใหญ่
ผมว่าคำถามนี้กำลังมีมากขึ้นในสังคมไทย ไม่เหมือนยุคสมัย 10-20 ปีก่อน ที่ไม่ค่อยมีใครถาม คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่า NGO คืออาชีพเสียสละ จนทั้งนั้น
แหม่ คุณจะให้คนทำงาน NGO ใส่เสื้อยืดสะพายย่ามทั้งชีวิต ไม่ต้องมีลูกเมีย ไม่ต้องรับผิดชอบครอบครัว หรือส่งลูกเรียนประชาบาล ยังงั้นเรอะ NGO ส่วนใหญ่ก็เป็นคนชั้นกลาง จบปริญญา สมัยก่อนน่ะอาจใช่ พวกจบใหม่ๆไปทำงาน NGO สนองอุดมคติซัก 3-4 ปีค่อยเปลี่ยนมามีอาชีพอื่น แต่ต่อมา องค์กรพัฒนาเอกชนทั้งหลายก็ต้องปรับอัตราค่่าจ้างให้พอมีฐานะอยู่ได้ในสังคมทุนนิยมบ้าง
ฉะนั้น ถ้า NGO ระดับทำงานมานานๆ จะมีเงินเดือนหลายหมื่น มันก็ไม่แปลกนะครับ ต้องมองโลกอย่างเป็นจริง (แต่ NGO นั่นแหละกลับมองโลกสวนความเป็นจริง)
สำหรับผม ถ้า NGO ทุ่มเททำงานในองค์กรของเขา แล้วมีเงินเดือนเหยียบแสน ก็ไม่เห็นผิดตรงไหน ปัญหามันอยู่ที่พวกเหยียบเรือหลายแคม ทำมาหากินหลายทางต่างหาก
คือหลังจากอาชีพ NGO เริ่มเฟื่อง เริ่มมีงบ สสส. มีองค์กรอิสระ มีองค์การมหาชน มีเงินวิจัย มีแหล่งทุนให้ใช้เยอะ โดยเฉพาะเมื่อมีรัฐประหาร มีองค์กรผลพวงรัฐประหาร ตั้ง NGO และนักวิชาการ เข้าไปนั่งเก้าอี้
มันก็เริ่มมีช่องทางทำมาหากินหลายทางพร้อมกัน เช่น การเข้าไปเป็นกรรมการ อนุกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ รับเบี้ยประชุม ค่าเดินทาง รับทำโครงการ รับงานวิจัย (เป็นล้านๆนะครับ) แล้วพวกนี้ก็นั่งไขว้กันไปไขว้กันมา ไม่ต่างจากที่ตัวเองด่าบอร์ด ปตท. แถมมีระบบอุปถัมภ์ ฝากเด็กกันอีกต่างหาก
อันนี้พูดรวมเลยนะ ทั้ง NGO ทั้งนักวิชาการ พวกนักวิชาการไล่ทักษิณ สิบปีมานี้สะด๊วบตำแหน่งรับงานวิจัยไม่รู้เท่าไหร่ บางคนมีเก้าอี้นั่งหลายตัว ไม่มีอะไรทำก็ไปตั้งองค์กรใหม่สถาบันใหม่ให้พวกนั่ง
พวก "รวย" จากกินงบรัฐหลายทางนี่แหละ่น่าทุเรศ โดยเฉพาะเมื่อบอกว่าต้านโกง มีพวกทำงานด้านนี้เล่าว่า บางคนนะพี่ บ้านอยู่ ตจว.เป็นกรรมการอนุกรรมการ 3 คณะ ประชุมสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็เบิกค่าเดินทาง 3 รอบ แต่ขอค่าเดินทางเหมาจ่าย ที่ไหนได้แม่-เมาอยู่กรุงเทพฯ ทุกคืน
อ้อ ป.ล.ส่วนตัวผมมอง NGO แยก 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือคนทำงานกับชาวบ้านจริงๆ พื้นที่จริงๆ เช่นพวกสมัชชาคนจน พีมูฟ พวกทำงานสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะทางใต้ กลุ่มหนึ่งคือพวกรณรงค์กับคนชั้นกลาง โลกสวย ใบไม้ดอกไม้ คุณภาพชีวิต พวกแรกมักจนกว่า ลำบากกว่า เสี่ยงกว่า พอมีรัฐประหารก็ยิ่งเผชิญหน้าโดยตรง ส่วนพวกหลังมักเป็น NGO ที่ป๊อปกว่า เท่กว่า ไม่เป็นประชาธิปไตยก็ไม่เดือดร้อนอะไร


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top