0

ผู้เชี่ยวชาญชี้ เกาหลีเหนือยิงจรวดอีกเพราะเหตุการเมืองภายใน ทั้งไม่น่าจะเป็นการลอบทดสอบขีปนาวุธต้องห้ามอย่างเต็มรูปแบบ
บรูซ เบนเน็ตต์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงอาวุโสของ แรนด์ คอร์ปอเรชัน หน่วยงานคลังสมองไม่แสวงผลกำไรของสหรัฐฯ แสดงทัศนะต่อกรณีที่เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยไกลนำดาวเทียมสังเกตการณ์พื้นโลกขึ้นสู่วงโคจรครั้งล่าสุดว่า จากการพิจารณาลักษณะของจรวดแล้ว อาจไม่ได้เป็นการลอบทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ที่ต้องห้ามตามมติของสหประชาชาติอย่างเต็มรูปแบบ และสาเหตุของการยิงจรวดน่าจะมาจากประเด็นการเมืองภายใน ที่นายคิม จอง อึน ต้องการจะแสดงความเข้มแข็งและความสำเร็จในฐานะผู้นำสูงสุด ก่อนจะมีการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งสำคัญของพรรคคนงานเกาหลีเหนือในเร็ววันนี้
นายเบนเน็ตต์มองว่า จากรายงานที่มีเข้ามาเกี่ยวกับลักษณะของจรวดที่เกาหลีเหนือใช้ในครั้งนี้ ซึ่งสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม และวิถียิงอาจไปไกลได้ถึง 13,000 กิโลเมตร เท่ากับว่าจรวดดังกล่าวมีศักยภาพที่จะยิงถึงเป้าหมายในเขตแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐอเมริกาได้ทุกแห่ง และสามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง นับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญทางเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม จรวดดังกล่าวยังถือว่าไม่เข้าขั้นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ที่แท้จริงอยู่ดี เนื่องจากขีปนาวุธชนิดนี้มีขนาดใหญ่มาก และต้องนำมาประกอบบนฐานยิงถาวรขนาดใหญ่ทั้งใช้เวลาประกอบนานเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามตรวจพบและเข้าทำลายได้ง่ายในภาวะที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศเกิดขึ้น ทั้งนี้ ขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาอยู่ คือขีปนาวุธ KN-08 ซึ่งถูกออกแบบให้มีฐานยิงแบบเคลื่อนที่ได้ แต่ยังไม่ได้มีการนำขีปนาวุธรุ่นนี้มาทดสอบแต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่ได้มีการทดสอบยานนำกลับหัวรบนิวเคลียร์สำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลอีกด้วย
หากการยิงจรวดครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการลักลอบทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยไกลข้ามทวีปแล้ว อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่นายคิม จอง อึน สั่งให้มีการยิงจรวดดังกล่าวในตอนนี้ ? เรื่องนี้นายเบนเน็ตต์มองว่า เป็นเรื่องของการเมืองภายในของเกาหลีเหนือ ซึ่งน่าจะมาจากการที่นายคิม จอง อึน ต้องการแสดงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและมีผลงานความสำเร็จที่ชัดเจน ก่อนหน้าการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคนงานเกาหลีเหนือครั้งที่ 7 ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยในการประชุมดังกล่าว นายคิมน่าจะต้องการแสดงความเป็นผู้นำสูงสุดโดยสมบูรณ์ให้เป็นที่ประจักษ์
เหตุที่ต้องทำเช่นนี้ เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์ก่อนหน้าที่แสดงถึงความล้มเหลวและอ่อนแอของนายคิม จอง อึน ไม่ว่าจะเป็นการที่จีนซึ่งเป็นชาติพันธมิตรสำคัญไม่จัดประชุมสุดยอดร่วมกับผู้นำเกาหลีเหนือเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และหันไปให้ความสำคัญกับเกาหลีใต้มากขึ้น โดยมีการจัดประชุมสุดยอดของผู้นำทั้งสองฝ่ายร่วมกันถึง 6 ครั้ง นอกจากนี้ การเมืองภายในเกาหลีเหนืออาจมีความสั่นคลอนบางประการจากการไล่ขจัดศัตรูทางการเมืองของนายคิมอีกด้วย
คาดกันว่าการที่เกาหลีเหนืออ้างว่าทดสอบระเบิดไฮโดรเจนสำเร็จเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เป็นแผนการหนึ่งที่จะบีบให้จีนจัดการประชุมสุดยอดกับตน แต่แผนการนี้ก็คว้าน้ำเหลว ทำให้นายคิมโกรธและสั่งให้มีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งการยิงจรวดนำส่งดาวเทียมในครั้งนี้ด้วย หากจีนยังไม่ตอบสนองตามแรงกดดันของเกาหลีเหนือ ก็คาดได้ว่าอาจมีการทดสอบอาวุธครั้งใหม่ ๆ ตามมาอีก เพื่อไล่ล่าหาความสำเร็จก่อนจะถึงการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคนงานเกาหลีเหนือในอีก 3 เดือนข้างหน้า


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top