อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เพิ่งเขียนบทความ “ต่อต้านอิสลามในภาคเหนือตอนบน” วิพากษ์อคติทางศาสนา ที่ทั้งพระและกำนันผู้ใหญ่บ้านคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล
ใครจะเห็นด้วยเห็นต่างเป็นอีกเรื่อง แต่ที่จะชี้ให้เห็นคือนักวิชาการประชาธิปไตยที่ถูกกาหัว “นักวิชาการแดง” เกือบทั้งหมดเห็นต่างกับพระ โดยเฉพาะศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา ในหลายประเด็น ไม่ว่า “พุทธเป็นศาสนาประจำชาติ” หรือ ร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ที่พระเมธี ธรรมาจารย์เป็นตัวตั้งตัวตี
อ.สุรพศ ทวีศักดิ์ ยิ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมา ชี้เลยว่ากฎหมายคุ้มครองศาสนาขัดหลักเสรีประชาธิปไตย รัฐประชาธิปไตยต้องเป็นกลาง ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา ให้ความเสมอภาคแก่ผู้นับถือ (หรือไม่นับถือ) ศาสนาต่างๆ
หรือแม้แต่ “ลัทธิจานบิน” ก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของพวก “ประชาธิปไตยฝรั่ง” บ่อยครั้งที่บ่นขรมเมื่อเห็นพระปิดถนน แม้บางคนอ้างว่าดีกว่าพระตั้งกรวยขวางเลือกตั้ง แต่หลายรายก็บอก ไม่เอาทั้งสองข้างนั่นละวะ
ฉะนั้นเมื่อเกิด “ม็อบพระ” วันจันทร์ ผมจึงงงมาก เมื่อเห็นปฏิกิริยาจากสื่อและสังคมออนไลน์ คนข้างหนึ่งซึ่งเคยปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง ด่าทอกันขรมว่านี่เป็น “พระเสื้อแดง” มีทักษิณ ธรรมกายอยู่เบื้องหลัง จากนั้นก็ปลุกความเกลียดชัง กระทั่งให้เอาทหารหญิงกับหมอนวดมาปราบม็อบพระ คนระดับที่ปรึกษารองนายกฯ ยังเอาภาพข่าวกองทัพพม่าจับพระไปฝึกอาวุธ มาจับแพะชนพระว่าเคยฝึกยิงปืนที่เขมร
นี่มันอะไรกัน ไม่ปฏิเสธหรอกนะ ธรรมกายเคยมีสายสัมพันธ์กับทักษิณ แต่ธรรมกายก็มีสายสัมพันธ์กว้างขวาง พระบางรูปเคยเคลื่อนไหวกับเสื้อแดง เสื้อแดงบางคนก็เคลื่อนไหวกับพระ แต่คนที่ปลุกกระแสไม่แยกแยะเลยหรือว่า สาวกธรรมกายไม่ใช่เสื้อแดงไปเสียหมด เสื้อแดงก็ไม่ได้นิยมธรรมกายไปเสียหมด พระที่มาเคลื่อนไหวก็ไม่ได้เป็นสาวกธรรมกายไปเสียหมด นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของพระก็มีตั้งมากมาย
เช่นกัน ลูกศิษย์สมเด็จช่วง ลูกศิษย์วัดปากน้ำ ก็ไม่ใช่พวกทักษิณเสื้อแดงไปเสียหมด ทำไมขยันสร้างคนเห็นต่างเป็นศัตรูเหลือเกิน
ใครเอาเลือกตั้งก็เป็นพวกทักษิณ ใครรักประชาธิปไตยไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารก็เป็นพวกทักษิณ ใครรักศรัทธาสมเด็จช่วง ใครเห็นว่าควรทูลเกล้าฯ ท่านเป็นสังฆราช ก็เป็นพวกทักษิณ พวกธรรมกาย พวกสนับสนุนคนทำผิดกฎหมาย ฯลฯ
ถามจริงจะเอาอะไรแน่ จะจัดการธรรมกาย? ที่จริงก็เป็นประเด็นสาธารณะ คนวิพากษ์เยอะไป พยายามสึกธัมมชโยกันกี่ปีแล้วล่ะ เกือบ 20 ปี ทำลายความเชื่อได้ไหม ต่อให้ไล่ออกจากคณะสงฆ์ ไปตั้งสำนักแบบสันติอโศก สาวกก็คงไม่เสื่อมคลาย มันเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้กันด้วยปรัชญา ด้วยเหตุผล ไม่ใช่ใช้อำนาจทำลาย
ถามจริง ต่อต้านสมเด็จช่วงเพราะอะไร กลัวท่านอุ้มธรรมกาย? สมมติมหาเถรสมาคมกลับมติ ตัดสินให้ธัมมชโยปาราชิก แล้วเรื่องจะจบไหม
จะปฏิรูปศาสนา ปฏิรูปกฎหมายสงฆ์ ถกปัญหาพระธรรมวินัย ฯลฯ คนตั้งมากมายก็เห็นด้วย เอาสิครับ ทำให้พระให้วัดโปร่งใส แต่ทำไมมาเคลื่อนไหวตอนมติมหาเถรสมาคมเสนอสมเด็จช่วง กลายเป็นชูป้าย “ปฏิรูปก่อนตั้งสังฆราช” แถมพระตั้งกรวยปิดถนนยังเป็นแกนนำ พาม็อบบุกวัด ชูป้ายคำหยาบ เรียกร้องรัฐบาลยับยั้งทูลเกล้าฯ เรียกร้องให้เอาผิดฐานครอบครอง “รถหรู”
ผมก็ไม่เห็นด้วยนะ ที่พระจัดโชว์รถโบราณ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่คนที่ต้องการให้เอาผิดท่านเรื่องนี้จงใจมากไปหรือเปล่า “รถผิด” ไม่ได้แปลว่าคนซื้อผิด DSI ต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกนาน แต่ระหว่างนี้กระแสก็จะบานไปเรื่อยๆ ฝ่ายหนึ่งก็จะรุกไล่ท่าน อีกฝ่ายก็จะตั้งคำถาม กระบวนการแต่งตั้งครั้งนี้ สมเด็จช่วงได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า
สมเด็จช่วงได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า คำถามนี้จะเปลี่ยนประเด็น ไม่ว่าคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ถ้าเริ่มรู้สึกว่าเรื่องพระกลายเป็นเรื่อง “การเมือง” เริ่มรู้สึกว่าขบวนการ “โค่นล้ม” ทางการเมือง แปลงร่างมา “โค่นพระ” โดยไม่เลือกวิธีการ ปัญหาจะบานปลายขึ้นไปอีก
ซึ่งก็เป็นภาระรัฐบาล ภาระท่านนายกฯ ยังไม่รู้ท่านจะจัดการความขัดแย้งอย่างไร ที่แน่ๆ คงไม่ใช่วิธีดีเบต ไม่รู้ใครเสนอไอเดีย ประหลาด ดีนะยกเลิกทัน ไม่งั้นถ่ายทอดสดให้ชาวบ้านโหวตผ่าน SMS แบบ The Face, The Voice, The Star คงสนุกพิลึก
เอาศาล เอาทหาร มาจัดการความนิยมทางการเมืองไม่ได้ฉันใด ก็เอาอำนาจรัฐไปจัดการศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของความเคารพศรัทธา ไม่ได้ฉันนั้น
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น