ศาลจีนตัดสินจำคุกทนายสิทธิ กรณีโพสต์ข้อความวิพากษ์รัฐบาล แต่รอลงอาญา
ผู่ จื้อเฉียง ถูกตัดสินว่าผิดฐาน “ยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังทางชาติพันธุ์” และ “หาเรื่องทะเลาะวิวาท” ในการแสดงความเห็นทางโซเชียลมีเดียของเขา โดยศาลปักกิ่งพิพากษาจำคุกทนายสิทธิมนุษยชนคนสำคัญเป็นเวลาสามปีเหตุแสดงความเห็นออนไลน์ แต่ให้รอลงอาญา
ยังไม่ชัดเจนว่าเขาจะได้รับการปล่อยตัวโดยทันทีหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคำพิพากษาหมายความได้ว่าทนายความผู้นี้จะยังถูกติดตามจับตาในช่วงการรอลงอาญาโดยอาจมีการลดโทษลงไปอีกหากเขาประพฤติตัวดี
ผู่ จื้อเฉียง เป็นรายล่าสุดที่ถูกดำเนินคดีในการกวาดล้างผู้มีความคิดเห็นต่างจากรัฐบาลในประเทศจีน เขาถูกจับกุมคุมขังในช่วงเวลาหลังจากที่ได้เข้าร่วมงานรำลึกวาระครบรอบ 25 ปีของการปราบปรามที่เทียนอันเหมินซึ่งเขาเป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งนั้น และเขาถูกคุมขังมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 โดยถูกตั้งข้อหาจากการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลลงบนบล็อกเว่ยโป๋ซึ่งเขาตั้งคำถามต่อการปราบปรามอย่าง “รุนแรงเลยเถิด” ต่อชาวอุยกูร์ในภูมิภาคซินเจียง กล่าวหาพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าเป็นพรรคที่หลอกลวง และล้อเลียนโวหารของรัฐบาลเกี่ยวกับเกาะเตียวหยู/เซนกากุที่ญี่ปุ่นก็อ้างสิทธิเป็นเจ้าของเช่นเดียวกัน
ผู้สนับสนุนของผู่ จื้อเฉียงเชื่อว่าการจับกุมตัวเขามีสาเหตุมาจากการเมืองและเป็นการพยายามปิดปากการวิพากษ์วิจารณ์ของทนายปากกล้าคนนี้
ก่อนที่จะมีการตัดสินของศาล มีนักกิจกรรมและผู้สื่อข่าวต่างชาติกลุ่มเล็กๆ มารวมตัวอยู่ที่หน้าศาล และเกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยกับตำรวจแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ทีผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มีการไต่สวนคดีของผู่ ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น
ในระหว่างการไต่สวนคดี มีเหตุกระทบกระทั่งระหว่างตำรวจกับผู้สื่อข่าวต่างชาติ ขณะที่นักการทูตและผู้ประท้วงที่ถูกกันไม่ให้เข้าไปฟังการพิจารณาคดี ซึ่งผู้สื่อข่าวบีบีซีระบุว่าเห็นนักกิจกรรมและผู้สื่อข่าวเหล่านั้นถูกลากตัวไปโดยตำรวจนอกเครื่องแบบหลายสิบนาย
ครอบครัวของผู่บอกว่าในตอนนั้นเขาปฏิเสธทุกข้อหา ภรรยาของเขาได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการพิจารณาคดีที่กินเวลาประมาณสามชั่วโมง
ครอบครัวและทนายของเขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าถึงแม้ผู่จะผอมลงไปมากและผมเริ่มหงอกขาว แต่ก็ยังดูมีสุขภาพแข็งแรงและจิตใจที่ยังแจ่มใสอยู่
กลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิระหว่างประเทศเรียกกรณีของปูว่าเป็นการคุกคามรังควานทางการเมือง องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่ามี “ความไม่ชอบมาพากลเชิงกระบวนการที่เกิดขึ้นซ้ำซาก” ในการดำเนินคดีต่อตัวเขา
ผู่เป็นทนายให้กับศิลปินอ้ายเหว่ยเหว่ยในคดีหลบเลี่ยงภาษีที่ถูกมองว่ามีสาเหตุจากการเมือง และเขายังได้ทำการรณรงค์ให้ยกเลิกระบบค่ายแรงงานที่ผู้ต้องหาถูกคุมขังเป็นระยะเวลาหลายปีได้โดยไม่มีการไต่สวน
ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำปักกิ่ง สตีเฟน อีแวนส์ บอกว่าผู่เป็นหนามยอกอกสำหรับทางการจีนมาตลอดตั้งแต่ที่เขาถูกจำคุกในปี 2532 จากการร่วมประท้วงที่เทียนอันเหมินตอนเป็นนักศึกษา ผู้สนับสนุนเขาบอกว่าการที่เขาถูกดำเนินคดีครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะเนื้อหาของข้อความเจ็ดข้อความที่เขาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียอย่างที่เจ้าหน้าที่อ้างเท่าไหร่นัก แต่เป็นการส่งคำเตือนถึงผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐบาลเสียมากกว่า รวมถึงทนายของคนเหล่านั้นด้วย
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น