ศาลอินเดียพิพากษาประหารชีวิตชาย 7 คนในคดีข่มขืนฆ่าสาวเนปาล
ศาลอินเดียมีคำพิพากษาให้แขวนคอชาย 7 คนที่ก่อเหตุรุมโทรมและฆาตกรรมหญิงชาวเนปาลคนหนึ่งอย่างโหดเหี้ยมในรัฐหรยาณา ทางภาคเหนือของอินเดีย เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
เหยื่อวัย 28 ปีได้เดินทางไปพักอาศัยอยู่กับพี่น้องที่รัฐหรยาณา ก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่เดือน เพื่อเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้าที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น ก่อนที่จะหายตัวไป แล้วถูกพบเป็นศพที่ทุ่งนาแห่งหนึ่งในอีก 3 วันต่อมา แพทย์ผู้ทำการชันสูตรศพ ระบุว่า เหยื่อถูกรุมโทรม และพบก้อนหิน ใบมีด และแท่งไม้ถูกยัดเข้าไปในร่างกาย
หนังสือพิมพ์ฮินดูสถาน ไทมส์ รายงานว่า ผู้พิพากษาหญิงในคดี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงยังคงต้องเผชิญกับอาชญากรรมและการเลือกปฏิบัติจากผู้ชายในสังคม ทั้งยังคงมีความอคติทางเพศให้เห็นได้ทั่วไป แต่คำพิพากษาครั้งนี้จะเป็นการส่งสารที่ชัดเจนต่อคนในสังคมและเป็นสิ่งที่จำเป็นในยามนี้
ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 8 ซึ่งเป็นผู้เยาว์ถูกนำตัวไปขึ้นศาลเยาวชน ขณะที่ผู้ต้องหาคนที่ 9 ได้ฆ่าตัวตายหลังถูกจับกุมได้ไม่นาน
คำพิพากษาคดีนี้ มีขึ้นในวันเดียวกับที่ศาลสูงสุดในอินเดียปฏิเสธคำร้องคัดค้านการปล่อยตัวคนร้ายอายุน้อยที่สุดในคดีข่มขืน น.ส.ชโยติ ซิงห์ นักศึกษาหญิงจนเสียชีวิตบนรถประจำทางในกรุงนิวเดลี เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยคนร้ายรายนี้ถูกจำคุก 3 ปี ซึ่งเป็นอัตราโทษสูงสุดสำหรับผู้เยาว์ในอินเดีย และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) ส่งผลให้ชาวบ้านออกมาชุมนุมประท้วง
นับแต่เกิดคดีของน.ส.ชโยติ ก็ทำให้มีการใคร่ครวญถึงปัญหาความรุนแรงทางเพศในอินเดีย และกระแสความไม่พอใจของชาวบ้านก็ทำให้รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดให้กฎหมาย แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นไม่ได้ช่วยลดจำนวนคดีข่มขืน และอาชญากรรมรุนแรงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น