ชายผู้อุทิศตนค้นหาร่องรอยเส้นทางรถไฟสายมรณะ
ร็อด บีทตี้ อดีตวิศวกรชาวออสเตรเลียวัย 67 ปี ซึ่งใช้ชีวิตในเมืองไทยมายาวนานกว่ายี่สิบปี คือผู้ที่อุทิศตนเพื่อการศึกษาและค้นหาร่องรอยเส้นทางรถไฟสายมรณะใน จ. กาญจนบุรี อย่างแท้จริง โดยภาพที่ผู้คนเห็นจนชินตา คือการที่เขาถือมีดพร้าและอุปกรณ์ค้นหาชิ้นส่วนโลหะ เดินท่อมๆ ไปตามป่าเขาแผ้วถางที่รกร้างและกอไผ่ เพื่อค้นหาแนวรางรถไฟ ที่ถูกพืชในธรรมชาติและพื้นที่การเกษตรรุกเข้าปกคลุมจนร่องรอยของประวัติศาสตร์ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา
คุณบีทตี้ทำงานนี้ด้วยใจรักมาเกือบยี่สิบปี โดยใช้ทุนส่วนตัวในการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยจุดมุ่งหมายไม่ใช่เพียงเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และทำแผนที่เส้นทางรถไฟสายมรณะฉบับสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังทำเพื่อคุณค่าทางจิตใจของบรรดาลูกหลานญาติมิตรเชลยศึกนานาชาติ ที่ในช่วงหนึ่งของชีวิต ต่างก็พากันเดินทางมาไทย เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเชลยศึกในช่วงเวลาดังกล่าว เช่นสาเหตุของการเสียชีวิต สถานที่ฝังศพ หรือแม้แต่เพียงการได้มาตามรอยคำบอกเล่าประสบการณ์ของบรรดาเชลยศึกที่รอดชีวิตกลับไปยังประเทศของตนได้
" ลูกหลานเชลยศึกเหล่านี้ เมื่อต่างก็ถึงวัยเกษียณ ก็เริ่มมีเวลาว่างในการติดตามค้นหาความจริงในอดีต เช่น พ่อเสียชีวิตที่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับเขา หรือบางคนแค่ต้องการมาดูให้เห็นกับตาว่า เรื่องที่ลุงของตัวเองซึ่งเป็นอดีตเชลยศึกเล่า ว่าต้องกินเมล็ดกล้วยป่าเพื่อประทังชีวิตนั้น เป็นเรื่องจริง แต่จะเป็นแบบไหนก็ตาม ผมเองมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือคนเหล่านี้" คุณบีทตี้กล่าว
จากการหักร้างถางพง และตามเก็บร่องรอยหลักฐานต่างๆ เช่นหมุดรางรถไฟ หรือข้าวของเครื่องใช้ของเชลยศึกที่ทิ้งไว้ตามเส้นทาง ได้ทำให้ค้นพบถึงตำแหน่งที่ตั้งของค่ายแรงงานถ้ำผีที่มีชื่อเสียงได้ ผนวกกับการติดตามศึกษาเอกสารจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้คุณบีทตี้มีฐานข้อมูลมหาศาลที่จะช่วยในการเผยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกที่ตรงกับความเป็นจริงแก่คนรุ่นหลัง ลบล้างความเชื่อผิดๆ ที่เกิดจากภาพฝังใจจากภาพยนตร์ดังเกี่ยวกับสะพานข้ามแม่น้ำแควและทางรถไฟสายมรณะ ที่นำเสนอภาพความทารุณโหดร้ายของทหารญี่ปุ่นเกินความเป็นจริงไปมาก โดยจากการค้นคว้าของเขา ทหารญี่ปุ่นไม่ได้สังหารหมู่เชลยศึกชาวออสเตรเลีย 68 คน ที่ช่องเขาขาด หรือช่องไฟนรก (Hellfire Pass) อย่างที่เชื่อกัน
ผลงานของคุณบีทตี้ได้ช่วยปูทางในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานที่เส้นทางรถไฟสายมรณะในปัจจบัน ตอนนี้ งานทำแผนที่เส้นทางรถไฟสายมรณะของเขาลุล่วงไปกว่าร้อยละ 60 แล้ว โดยแผนที่ครอบคลุมเส้นทางกว่า 3,000 กิโลเมตรในไทยและบางส่วนในเมียนมาร์ "ผมคงจะได้ยุติภารกิจนี้เมื่อผมตายเท่านั้น" คุณบีทตี้กล่าว