0

พระเมธีธรรมาจารย์ ปฏิเสธข้อเสนอนายกรัฐมนตรีเรื่องการดีเบตประเด็นแต่งตั้งพระสังฆราชต่อหน้าสาธารณะ

จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ถึงปัญหาความขัดแย้งของพระสงฆ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ว่า จะหาทางให้พระทั้งสองฝ่ายมาดีเบตกันให้ประชาชนฟังถึงเหตุผลของแต่ละฝ่าย และกล่าวว่ามีความกังวลในเรื่องความขัดแย้งครั้งนี้ เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีฆราวาสสนับสนุนอยู่เป็นจำนวนหลักล้าน โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายอย่าเคลื่อนไหว ทั้งนี้ไม่อยากใช้อำนาจกับพระหรือกับประชาชน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งพระสังฆราชว่า ต้องจัดการปัญหาความขัดแย้งให้เรียบร้อยก่อนจึงจะเสนอรายชื่อขึ้นทูลเกล้า

มติชนออนไลน์รายงานวันนี้ว่า พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะเข้าร่วมการดีเบตตามข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่าจะร่วมดีเบตต่อสาธารณะเฉพาะประเด็นการบรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนประเด็นการเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เป็นพระสังฆราชนั้น หากเป็นการดีเบตต่อหน้าสาธารณะก็จะปฏิเสธ เนื่องจากเป็นการถกเถียงในเรื่องของตัวบุคคล ซึ่งฝ่ายที่สนับสนุนย่อมพูดแต่เรื่องดี ส่วนฝ่ายที่ค้านก็จะพูดเฉพาะด้านไม่ดี ซึ่งสาธารณะจะรับรู้ทันทีและส่งผลหากเกิดความเสียหายขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่หากเป็นการพูดคุยแบบเผชิญหน้าเพียงสองฝ่ายก็ยินดี

ทางด้านนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนา ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยถึงความเห็นต่อข้อเสนอของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สองฝ่ายดีเบตกันว่า การให้สองฝ่ายมาวิวาทะกัน จะทำให้ความขัดแย้งที่เป็นอยู่แย่ลง แต่หากมองในแง่ดี พล.อ.ประยุทธ์จะได้แต้ม เพราะเปิดให้มีการถกเถียงกันแบบประชาธิปไตย หากมองในแง่ร้าย จะเป็นการผลักเรื่องหรือโยนเผือกร้อนให้คนอื่นซึ่งไม่ถูกต้อง

นายสุลักษณ์ กล่าวว่า ประเด็นที่ควรจัดให้มีการอภิปรายกันในขณะนี้ ควรเป็นเรื่องของการสังคายนาพระธรรมวินัยให้เหมาะแก่ยุคสมัย และถกเถียงกันว่าศาสนาพุทธในเวลานี้จะเข้ากันได้กับทุนนิยมและบริโภคนิยมหรือไม่ และจะยืนหยัดอย่างไร รวมทั้งอภิปรายว่าคณะสงฆ์ปัจจุบันนี้ยังเหมาะสมกับยุคสมัยหรือไม่ แต่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เข้าใจความสำคัญของประเด็นดังกล่าว


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top