โคลอมเบียสั่งสอบสวนกรณีนักโทษหายสาบสูญจากเรือนจำกว่า 100 ราย
เจ้าหน้าที่ทางการโคลอมเบียระบุว่า การหายสาบสูญนี้เกิดขึ้นที่เรือนจำลาโมเดโล ในเมืองโบโกตา โดยผู้สูญหายมีจำนวนกว่า 100 ราย เหตุการณ์เกิดขึ้นในระหว่างปี 2542 ถึงปี 2544
เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ที่หายไป ซึ่งมีทั้งนักโทษและผู้มาเยี่ยมในเรือนจำดังกล่าว น่าจะถูกฆ่า ตัดร่างกายเป็นส่วน ๆ แล้วโยนลงท่อระบายน้ำของเรือนจำ ซึ่งเป็นที่จำคุกนักโทษทั้งพวกกบฏฝ่ายซ้าย สมาชิกกองกำลังติดอาวุธฝ่ายขวา และผู้ค้ายาเสพติด
สภาพของเรือนจำในช่วงเวลาที่มีผู้หายสาบสูญไปนั้น มีนักโทษเข้าควบคุมเป็นแดน ๆ ไป คือกลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายกับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายขวาแบ่งพื้นที่ควบคุมกัน และลาดตระเวนเขตของตน โดยสวมหมวกคลุมศีรษะ และมีระเบิดมือกับปืนอัตโนมัติเป็นอาวุธ
ในปี 2543 มีผู้พบศพนักโทษคนหนึ่งที่หายไปหลายวัน ศพของเขาถูกหั่นและใส่ไว้ในถุงพลาสติกแล้วยัดลงในท่อระบายน้ำ วันถัดมานักโทษที่เป็นกลุ่มปฎิปักษ์กันได้ต่อสู้กันเอง หลังจากนั้นมีนักโทษ 17 คนหายไปและหาตัวไม่พบอีกเลย ทำให้เกิดข่าวลือในเรือนจำว่าพวกเขา รวมทั้งคนที่ไปเยี่ยมอีกจำนวนหนึ่งถูกฆ่าหั่นศพยัดกระสอบทิ้งในท่อระบายน้ำเช่นกัน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อัยการคาทารินา เฮคส์ บอกว่า ทางการจะสอบสวนเหตุการณ์คนหายเพื่อให้กระจ่างชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในเรือนจำแห่งนี้
ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าหน้าที่นำเรื่องนี้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง นั่นคือเหตุการณ์ที่ผู้สื่อข่าวชื่อจิเนท เบโดยา ถูกลักพาตัวไปเมื่อ 16 ปีที่แล้วขณะกำลังรอจะเข้าเยี่ยมนักโทษคนหนึ่งที่ชื่อมาริโอ เจมส์ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มกบฏ เพราะเชื่อว่าเขามีข้อมูลจะแจ้งแก่เธอ
เธอถูกผู้ชายกลุ่มหนึ่งบังคับให้ขึ้นรถ รมยาและพาไปนอกเมือง ถูกทรมานและข่มขืน อัยการบอกว่าอัยการจะรื้อฟื้นคดีนี้กลับขึ้นมาใหม่และคดีดังกล่าวนำพาเจ้าหน้าที่ไปสู่กรณีการหายตัวในเรือนจำด้วย
โคลอมเบียกำลังมีการใช้กฎหมายใหม่ที่จะให้แรงจูงใจนักโทษสมาชิกกลุ่มกบฏให้เปลี่ยนใจ สารภาพผิดด้วยการลดโทษให้กับพวกเขา แต่อัยการเฮคส์บอกว่า ได้ร้องขอไม่ให้ลดหย่อนโทษแก่มาริโอ เจมส์ และอเลจานโดร คาร์ดีนาส์ เพราะเจมส์เป็นผู้สั่งการให้มีการลักพาตัวนักข่าว ขณะที่คาร์ดีนาส์เป็นหนึ่งในกลุ่มชายสามคนที่ลักพาตัว ทรมานและข่มขืนเธอ เมื่อต้นเดือนนี้ทั้งสองคนรับสารภาพว่ากระทำผิด
โคลอมเบียกำลังมีการใช้กฎหมายใหม่ที่จะให้แรงจูงใจนักโทษสมาชิกกลุ่มกบฏให้เปลี่ยนใจ สารภาพผิดด้วยการลดโทษให้กับพวกเขา แต่อัยการเฮคส์บอกว่า ได้ร้องขอไม่ให้ลดหย่อนโทษแก่มาริโอ เจมส์ และอเลจานโดร คาร์ดีนาส์ เพราะเจมส์เป็นผู้สั่งการให้มีการลักพาตัวนักข่าว ขณะที่คาร์ดีนาส์เป็นหนึ่งในกลุ่มชายสามคนที่ลักพาตัว ทรมานและข่มขืนเธอ เมื่อต้นเดือนนี้ทั้งสองคนรับสารภาพว่ากระทำผิด
อัยการบอกว่า ขณะนี้ต้องถือว่าเจมส์เป็นเพียงอาชญากรธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น และทางการยังสงสัยด้วยว่า เขาอาจอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของนักโทษอีกหลายคนในเรือนจำไม่ไกลจากแดนที่เขาคุมอยู่ในช่วงที่คนเหล่านั้นหายตัวไป
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น