เทียนจินปลอดภัยแค่ไหนหลังการระเบิด?
ซีเลีย แฮตตัน ผู้สื่อข่าวบีบีซี ที่กรุงปักกิ่งรายงานว่า กว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากโกดังที่เต็มไปด้วยสารเคมีอันตราย เกิดระเบิดขึ้นที่เมืองเทียนจินในประเทศจีน หลายคนยังรู้สึกหวาดกลัวว่าสารพิษต่าง ๆ ยังคงตกค้างอยู่ในอากาศ พื้นดินหรือน้ำ
“มีกลิ่นประหลาด ๆ ตอนฝนตกเมื่อวาน” ชาวเมืองเทียนจินรายหนึ่งเขียนเล่าในโลกออนไลน์ “และฉันก็ไอมาตลอดหลายวัน ถ้ารายงานข่าวเป็นความจริงที่ว่ามีแก๊สทำลายประสาท ฉันก็จะสวมหน้ากาก”
“ทุกคนที่อยู่ในเทียนจินควรหลีกเลี่ยงน้ำประปา” อีกคนเตือน “ต่อให้พวกเขาบอกว่าสารพิษเหล่านั้นได้ถูกควบคุมไว้แล้วก็ตามที ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าที่จะมาเสียใจภายหลัง”
ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่าข้อกังวลเหล่านี้ มีที่ถูกต้องสักเท่าไหร่? เทียนจินยังอยู่ในภาวะอันตรายอยู่หรือไม่? คำตอบสั้น ๆ คือ เรายังไม่รู้
มีการระบุว่ามีสารเคมี 40 ชนิดอยู่ในโกดัง แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อสารเคมีทั้งหมดนั้นออกมา รัฐบาลกล่าวว่าบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการโกดังแห่งนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าที่จะพูดอะไรได้ ทำให้ยากที่จะรู้ได้แน่ชัดว่า มีอะไรอยู่ในโกดังขณะเกิดการระเบิด
ลูอี้ เช็ง อดีตผู้เชี่ยวชาญสงครามอาวุธเคมีของกองทัพสหรัฐฯ ที่ตอนนี้ทำธุรกิจที่ปรึกษาด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในประเทศจีนบอกว่า ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามีอะไร “ส่วนใหญ่พวกเขาใช้บันทึกที่บอกว่าเคยมีอะไรบ้างอยู่ในโกดัง และเราอาจไม่มีวันรู้อะไรที่อยู่ในนั้นทั้งหมด ดังนั้นผมก็พูดอย่างมั่นใจไม่ได้ว่า มีอะไรปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย”
เมื่อวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) มีปลาตายนับพันตัวลอยเต็มตลิ่งของแม่น้ำไห่เหอ ในอำเภอเดียวกันกับที่โกดังระเบิด ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการปนเปื้อนขนานใหญ่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กล่าวว่ายังไม่พบระดับของไซยาไนด์สูงเกินค่าเฉลี่ยในน้ำในพื้นที่นั้น พวกเขาบอกว่าจากการทดสอบพบว่าปริมาณออกซิเจนในน้ำอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งบ่งบอกว่าปลาตายเนื่องจากการขาดออกซิเจน
สารพิษที่เป็นภัยคุกคามระยะยาว รวมถึงสารก่อมะเร็งต่าง ๆ อาจถูกทำให้แพร่กระจายจากการระเบิด
เช็งได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าที่กังวลหลายต่อหลายรายที่อาศัยอยู่ในเมืองเทียนจิน “คำถามที่พวกเขามักถามกันก็คือ เราอยู่ที่นี่จะปลอดภัยหรือเปล่า? ผลกระทบในระยะยาวจะเป็นอย่างไร? มันอยู่ในน้ำใช่ไหม? โดยทั่วไปแล้วก็มาลงที่ มันปลอดภัยหรือไม่?” เขาแนะนำให้ลูกค้าของเขาอยู่ภายในอาคารตลอดเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้าและใช้เครื่องกรองอากาศแบบใช้คาร์บอนและหน้ากากที่ป้องกันการสัมผัสกับสารเคมี
แต่ก็มีข่าวที่ทำให้ใจชื้นมาได้บ้าง เบน เบิร์ก นักวิจัยระดับหลังปริญญาเอกในแผนกเคมีของมหาวิทยาลัยฮัลล์อธิบายว่าสารเคมีหลัก ๆ หลายชนิดที่รู้กันว่าเกี่ยวข้องในการระเบิดไม่ได้เป็นภัยในระยะยาวต่อพื้นที่นั้น เขายกตัวอย่างโซเดียมไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารเคมีอันดับต้น ๆ ที่คนส่วนใหญ่กังวล เขาบอกว่าโซเดียมไซยาไนด์ในปริมาณไม่มาก สามารถทำให้มนุษย์ถึงแก่ชีวิตได้ และเมื่อสัมผัสกับน้ำ สารเคมีที่อยู่ในรูปของผงสีขาวจะกลายเป็นแก๊สที่ใช้ในสงครามอาวุธเคมี แต่เมื่ออยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเส้นสีแดงที่เป็นพิษนั้น โซเดียมไซยาไนด์ในปริมาณเล็กน้อยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงอยู่ว่าโซเดียมไซยาไนด์จะเข้าไปอยู่ในแหล่งน้ำของเมืองเทียนจิน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจนถึงบัดนี้การทดสอบต่าง ๆ แสดงผลว่าน้ำมีความปลอดภัย สำหรับสารเคมีบางอย่างที่รู้ว่ามีอยู่ในโกดัง อันตรายที่มากที่สุดที่พวกมันจะเป็นได้คือการระเบิด เช่น แคลเซียมคาร์ไบด์จะกระจายไปในบรรยากาศอย่างปลอดภัยหลังการระเบิด
เบิร์กระมัดระวังที่จะยอมรับในความร้ายแรงของอุบัติเหตุครั้งนี้และความทุกข์ทรมานของเหยื่อและครอบครัว อย่างไรก็ตามเขาก็อยากปลอบใจชาวเมืองเทียนจินว่า เป็นไปได้ที่พื้นที่นั้นจะฟื้นฟูเป็นปกติ เขาบอกว่า “ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาของการเกลียดกลัวสารเคมีที่เกิดขึ้นทั่วไป ทุกอย่างเป็นอันตราย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ สารเคมีทุกชนิดในโลกเป็นอันตรายถ้าคุณใช้มันผิดวิธีหรือรับเข้าไปมากเกินไป แต่สถานที่เกิดเหตุสามารถทำให้กลับมาปลอดภัยได้แทบจะอย่างแน่นอน” หากรู้ว่ามีสารเคมีอะไรถูกปล่อยออกมาจากการระเบิด
'ยาวนานและเจ็บปวด'
ผู้เชี่ยวชาญสารเคมีของกองทัพ 300 คน ร่วมกันในปฏิบัติการทำความสะอาดในชุดและหน้ากากป้องกันเชื้อโรค พวกเขาใช้เครื่องจักรกลหนักสร้างกำแพงดินและทรายขนาดใหญ่ขึ้นมาล้อมรอบสถานที่ กำแพงดังกล่าวน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้สารเคมีแพร่กระจายออกไป พวกเขายังพ่นอาบพื้นที่ด้วยไฮโดรเจนเพอร์อ็อกไซด์ ซึ่งเป็นสารเคมีที่สามารถลบล้างโซเดียมไซยาไนด์ได้ แต่หนทางยังอีกยาวไกล สื่อของรัฐรายงานว่าระดับของไซยาไนด์ในพื้นที่มีค่าสูงกว่าระดับที่ถือว่าปลอดภัย 356 เท่า
ผู้ผลิตไซยาไนด์เจ้าหนึ่งส่งคณะทำงาน 140 คน มาช่วยเก็บสารดังกล่าวและส่งกลับไปยังสถานที่ผลิตในมณฑลเหอเป่ยที่อยู่ใกล้เคียง
เช็งพูดอย่างตรงไปตรงมาเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการทำความสะอาด โดยทำนายว่าจะ “ยาวนานและเจ็บปวด เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลจะฝังพื้นที่ทั้งหมดไว้ใต้ดินและปิดมิดชิดไม่ให้อากาศและน้ำเข้าออก พวกเขาก็จะต้องทำความสะอาดอาคารทีละหลังเพื่อลบล้างและขจัดสารเคมีที่ยังเหลืออยู่”
เจ้าหน้าที่จีนระบุว่าการทำความสะอาดจะใช้เวลา 3 เดือน คนที่ต้องไร้บ้านจากการระเบิดได้รับเงินชดเชยในการดำรงชีพเป็นเวลา 3 เดือนจากรัฐบาล โดยเป็นส่วนหนึ่งของการชดเชยเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่มีวันที่จะกลับไปยังบ้านเดิมของตนอีกเลย







 
Top