บรรพชนโคราชมี 2 กลุ่มใหญ่ ผสมกลมกลืนอยู่ด้วยกัน ได้แก่

1. คนที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาคกลาง โยกย้ายจากอยุธยา ในวัฒนธรรมแบบไทย-ลาว ปนเขมร ยุคต้นอยุธยา ราวเรือน พ.ศ. 2000

2. คนพื้นเมืองดั้งเดิมที่ราบสูง ในวัฒนธรรมแบบมอญ-เขมร และอื่นๆ สืบเนื่องจากยุคดึกดำบรรพ์ ราว 3,000 ปีมาแล้ว

วัฒนธรรมโคราช เป็นแบบอยุธยาปนพื้นเมืองดั้งเดิมที่ราบสูง (ไม่ลาว) โดยมีพัฒนาการขึ้นใหม่ ราวหลัง พ.ศ. 2000 

มีลักษณะสำคัญๆ เช่น นุ่งโจงกระเบน, ตัดผมสั้น, กินข้าวเจ้า, เล่นเพลงโคราช, ศิลปกรรมแบบภาคกลาง, สำเนียงเหน่อ (เหมือนสำเนียงหลวงอยุธยา) ฯลฯ

สำเนียงโคราช มีรากเหง้าจากสำเนียงหลวง ของคนลุ่มน้ำเจ้าพระยายุคต้นอยุธยา ที่พูดเหน่อ (แบบลาวสองฝั่งโขง) 

คนภาคกลางยุคต้นอยุธยาถูกโยกย้ายขึ้นไปตั้งหลักแหล่งที่โคราช เมื่ออยุธยาสถาปนาเมืองนครราชสีมา และสร้างกำแพงอิฐหลัง พ.ศ. 2000

เพลงโคราช (เป็นกลุ่มเพลงเครือญาติกับเพลงฉ่อยของภาคกลาง) มีต้นตอรากเหง้าคราวเดียวกับสำเนียงโคราช จากภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยุคต้นอยุธยา

เมืองโคราช

หลัง พ.ศ. 1900 รัฐอยุธยาขยายอำนาจขึ้นควบคุมลุ่มน้ำมูล ขณะนั้นยังไม่มีเมืองนครราชสีมา 

หลัง พ.ศ. 2000 อยุธยาสถาปนาเมืองนครราชสีมา บริเวณลำตะคองไหลตกแม่น้ำมูล

ปากชาวบ้านเรียก เมืองโคราช

โคราช (อ่านว่า โค-ราด) เป็นภาษาพูด ที่กร่อนจากชื่อเต็มว่านครราชสีมา เริ่มมีชื่อนี้ราวหลัง พ.ศ. 2000

นครราชสีมา หมายถึง เมืองอันเป็นพระราชอาณาเขต (ของรัฐอยุธยา)

ภาษาปากชาวบ้าน ว่า ครราช (อ่านว่า คอน-ราด) แล้วเพี้ยน ว่า โคราช



โคราชตั้งอยู่บนที่ราบสูง เหนือกรุงเทพฯ เกือบ 200 เมตร 

จุดสูงสุดของที่ราบสูงโคราช อยู่บริเวณ อ. ด่านขุนทด สูงกว่าหอไอเฟลที่ปารีส และตึกใบหยกที่กรุงเทพฯ



ฮันนีมูนล้านปีที่โคราช

โลกเริ่มมีชีวิตเมื่อล้านๆปีที่แล้ว ก็นัดกันมาฮันนีมูนที่โคราชŽ

ขรรค์ชัย บุนปาน ประธานฯมติชน บอกคณะทำงานบูรณะศาลาการเปรียญวัดแก้วไพฑูรย์ บางขุนเทียน ขณะเปิดหนังสือโคราชของเรา เห็นรูปฟอสซิลสัตว์ล้านปีจำนวนมาก พบที่โคราช เหมือนนัดมาฮันนีมูนเมื่อล้านปีที่แล้ว จึงเหลือซากให้เห็นในปัจจุบัน 

นครราชสีมา เป็นดินแดนโลกล้านปี มีไม้กลายเป็นหิน, ช้างดึกดำบรรพ์, ไดโนเสาร์, ฯลฯ

ไดโนเสาร์ เป็นสัตว์เก่าแก่และขนาดใหญ่สุด แล้วยังมีสัตว์ขนาดเล็กหลายชนิด เช่น ลิง, เสือ, ปลา, ฯลฯ รวมทั้งพืช

ช้าง พบฟอสซิลบริเวณสองฝั่งลำน้ำมูล ต. ท่าช้าง อ. เฉลิมพระเกียรติ จ. นครราชสีมา



source :- http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439461684

 
Top