ปัญหาของพลังงานตอนนี้คือ "ราคาน้ำมันโลกต่ำอาจแตะ 30 US$/บาเรล" หรืออยู่ในระดับต่ำไปอีกนานพอสมควร เราจะบริหารพลังงานอย่างไร ให้ประชาชนได้ประโยชน์จากภาวะพลังงานราคาต่ำ รวมทั้งถือโอกาสนี้สร้างความเข็มแข็งด้านพลังงานให้มากขึ้น
สาเหตุที่ราคาน้ำมันโลกตกต่ำลงไปมากนั้น ในตอนนี้คือ ประเทศตะวันตกทั้งหลายตกลงกับอิหร่านได้เรื่องอิหร่านจะหยุดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และตะวันตกจะเลิกแซงชันค์อิหร่าน ทำให้อิหร่านสามารถขายน้ำมันออกสู่ตลาดโลกได้อีกครั้งหนึ่ง ประเมินกันว่า แค่น้ำมัน Oil on-Sea หรือน้ำมันดิบของอิหร่านที่สูบขึ้นมาแล้ว อยู่ในเรือต่างๆ ลอยลำในทะเล มีเกือบ 40 ล้านบาเรล ดังนั้นในระยะเวลาสั้นๆ นี้น้ำมันส่วนนี้จะเข้าสู่ตลาด ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกหัวทิ่ม อาจแตะ 30 US$/บาเรล
ประเทศไทยได้ผลประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำนี้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาของพลังงานราคาต่ำคือ ประชาชนจะไม่ประหยัดพลังงาน รวมทั้งพลังงานทดแทนทั้งหลายที่เราส่งเสริมขึ้นมาจำนวนมาก เราจะต้องอุ้มราคากันต่อไป ทำให้ราคาพลังงานจริงๆ ของประเทศไทยจะไม่ลดลงมากอย่างที่เราคาดหวังกัน
โครงการพลังงานทดแทนต่างๆ ของประเทศไทยอาจหยุดชะงัก การลงทุนในด้านนี้ลดลง คนอาจสนใจลดลง (ส่งผลกระทบต่อหุ้นพลังงานที่เคยร้อนแรงอย่างให้ซบเซาอย่างแน่นอน) รวมทั้งมาตรการประหยัดพลังงานทั้งหลาย คนอาจไม่สนใจ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ตกต่ำลงอย่างมากนี้ ไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแต่อย่างใด แต่กลับจะซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกให้หนักยิ่งขึ้น เพราะน้ำมันเป็นสินค้าโภคภันฑ์หลักที่มีมูลค่าและปริมาณซื้อขายมากที่สุดในโลก เมื่อราคาลดลงมากกว่าครึ่ง ทำให้รายได้ประเทศผู้ส่งออก รวมทั้งบริษัทที่มีธุรกิจด้านนี้ตกลงไปมาก กระทบต่อกำลังซื้อของโลกอย่างรุนแรง ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาอยู่แล้ว ให้ซึมไปยาวยิ่งขึ้น
ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการส่งออก ยิ่งมาเจอกับภาวะที่ตลาดโลกซึมแบบนี้ยิ่งมีปัญหาหนัก ยิ่งโดนต่อต้านจากการเมืองด้วยแล้ว ก็ภาวนากันเอาเองก็แล้วกันครับ
แต่ที่แน่ๆ กระทรวงพลังงานของไทยคงต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ที่เคยวางแผนไว้ด้วยสมมุติฐานราคาน้ำมันแพง แต่สถานการณ์อย่างน้อย 4-5 ปีข้างหน้า หรือมากกว่า เป็นสภาพการณ์ที่ราคาน้ำมันดิบต่ำ คงต้องทบทวนแผนต่างๆ ทั้งเป้าหมาย ความต้องการต่างๆ เป็นต้น


 
Top