0

เชลยศึกที่รอดชีวิตจากค่ายกักกันช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ผ่านพ้นความทุกข์ยากลำบากมาได้อย่างไร ?
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารอังกฤษกว่า 50,000 นายถูกจับเป็นเชลยศึกในค่ายกักกันแรงงานของญี่ปุ่นในเอเชีย โดยหนึ่งในสี่ของจำนวนนี้ต้องเสียชีวิตลงในค่ายกักกัน เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ขาดแคลน โรคภัย และการบังคับใช้แรงงานที่ทารุณ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีการเล่าขานกันบ่อยครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของทหารผ่านศึกที่เอาชีวิตรอดกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนได้ หลังจากต้องทนทรมานในค่ายกักกันกว่าสามปีครึ่ง กลับไม่ค่อยมีใครทราบว่า พวกเขาทำอย่างไร จึงสามารถอดทนผ่านความทุกข์ทรมานที่ยาวนานนั้นมาได้
จากบันทึกของร้อยโท เอ็ม อี บาร์เร็ตต์ ซึ่งเคยอยู่ในค่ายกักกันเชลยศึกช่องไก่ จังหวัดกาญจนบุรี ระบุว่า เชลยศึกได้ข้าวสกปรกกินวันละไม่เกินหนึ่งถ้วย ทำให้ขาดสารอาหารรุนแรงจนบางคนสูญเสียการมองเห็น และมีอาการปวดเส้นประสาท นอกจากนี้ โรคเขตร้อนอย่างมาลาเรียและโรคบิด ทำให้เชลยศึกจำนวนมากท้องเดินเรื้อรังจนกลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ การทำงานหักร้างถางพงในป่าโดยไม่สวมเสื้อผ้า ทำให้มักได้แผลจากกอไผ่ ที่กลายเป็นแผลติดเชื้อเน่าเปื่อย ซึ่งมักลุกลามเป็นแผลลึกและเปิดกว้างหลายนิ้วจนเห็นกระดูก
ในภาวะยากลำบากแสนเข็ญเช่นนี้ เชลยศึกชาวอังกฤษสามารถผ่านพ้นมาได้ โดยอาศัยการสร้างความสัมพันธ์อย่างพี่น้องระหว่างกันอย่างเหนียวแน่น โดยสร้างเครือข่ายเพื่อนฝูงที่ช่วยกันแบ่งปันอาหาร แบ่งเบาภาระงานหนัก รวมทั้งดูแลรักษากันเองยามป่วย เช่นคนที่เป็นโรคบิด หากไม่มีเพื่อนคอยดูแล จะต้องนอนไร้เรี่ยวแรงจมกองอุจจาระของตนเอง และโอกาสเสียชีวิตมีสูง
นอกจากนี้ การแบ่งปันทักษะความรู้ที่แต่ละคนมีก็ช่วยได้อย่างมาก เช่น คนที่เคยเป็นหมอนั้นมีความรู้ในการรักษาโรคแต่ก็ไม่มีเครื่องมือตรวจรักษา จึงอาจอาศัยคนที่เคยเป็นช่างช่วยประดิษฐ์อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ขาเทียม หรืออุปกรณ์ผ่าตัดจากกระป๋องดีบุกและชิ้นส่วนกรรไกร
การสร้างอารมณ์ขันเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยจรรโลงจิตใจที่แห้งเหี่ยวจากการเผชิญความโหดร้ายทารุณเป็นเวลานานได้ เช่นทหารผ่านศึกผู้หนึ่งเล่าว่า มีการพนันขันต่อกันว่าใครที่นั่งบนถังส้วมในกระท่อมเป็นคนสุดท้ายขณะที่มันพังจะได้รับรางวัล
เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม เชลยศึกชาวอังกฤษที่กาญจนบุรีต้องรอถึง 5 สัปดาห์กว่ากองกำลังสัมพันธมิตรจะมาพบและพากลับบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับมาเหยียบแผ่นดินอังกฤษ พวกเขาไม่ได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ เพราะสงครามในยุโรปสิ้นสุดไปกว่าห้าเดือนแล้ว และอังกฤษก็เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังสงคราม ซึ่งผู้คนต้องต่อสู้กับสภาพข้าวยากหมากแพงและภาวะว่างงาน อดีตเชลยศึกเหล่านี้ก็ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน รวมทั้งเผชิญกับความรู้สึกผิดที่ได้ยอมจำนนในสงคราม หลายคนยังมีปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจติดตามมาด้วย อย่างไรก็ตามอดีตเชลยศึกในอังกฤษยังคงสานสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างกันต่อไป โดยมีการจัดตั้งสมาคมเช่น The London Far East Prisoner of War Social Club เพื่อช่วยเหลือในการจัดหางาน และรับฟังปัญหาต่างๆ ของบรรดาเชลยศึกในการเริ่มต้นดำเนินชีวิตใหม่ด้วย

แสดงความคิดเห็น

 
Top