ที่ผมวิพากษณ์วิจารณ์รัฐธรร มนูญว่าสืบทอดอำนาจ ใช้ยุทธศาสตร์ลับลวงหลอก ความจริงยิ่งกว่าลับลวงหลอก เสียอีก เรียกว่า ลับลวงโลกเลยก็ว่าได้
ยังไม่ทันถึงการเขียนบทเฉพา ะกาล พอไปถึงแค่ข้อนายกฯไม่ได้มา จากเลือกตั้ง ผมก็ประกาศทันทีว่าไม่ลงเลื อกตั้ง
ผมเห็นว่าตลอดระยะเวลา 83 ปี มานั้น ประเทศไทยไม่เคยมีประชาธิปไ ตยแม้แต่เพียงครั้งเดียว แต่รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาแม้ว ่าจะเลวทรามต่ำช้าสักเพียงใ ด ก็ยังไม่เลวร้ายเหมือนรัฐธรรมนูญที่กำลังจะผ่านในขั ้นตอน สปช. 6 กันยายน 2558 นี้
ที่บอกว่ามีการตั้งกรรมการย ุทธศาสตร์ให้มีอำนาจนั้นเป็ นการระบุเงื่อนไขเพื่อไม่ให ้เกิดสุญญากาศขณะเกิดวิกฤติ ของประเทศ ถามจริงว่าไม่รู้หรือว่าวิก ฤติของประเทศนั้นมันสร้างใด ้ เป็นวิกฤติเทียมเหมือนปะการ ังเทียม แต่ละคนที่อยู่ในกระบวนการโ ค่นล้ม ก็อยู่ในแม่น้ำ 5 สาย ที่ร่วมลงทุนลงแรงกันมามากท ั้งนั้น
วิกฤติที่สร้างนั้นก็เพื่อเ ข้ามาจัดการระบอบประชาธิปไต ย ทุกคนก็รู้ว่าเลือกตั้งแล้ว จะเป็นยังไง ดังนั้นจึงมีการตั้งกรรมการ ยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปแล ะการปรองดองแห่งชาติ อะไรที่ชื่อดีมักจะเลวร้ายเ ป็นส่วนใหญ่ อย่าง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป มีที่มาของ ส.ว.เลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน แต่งตั้ง 123 คน และที่สำคัญที่สุดที่สุดก็ม ีการเปิดประตูให้คนนอกมาเป็ นนายกฯ จะกำหนดเสียงไปเท่าไหร่ก็ไม ่มีความหมาย
อำนาจพิเศษเหล่านี้พร้อมด้ว ยองค์กรอิสระ มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 เสียอีก
ยังไม่ทันถึงการเขียนบทเฉพา
ผมเห็นว่าตลอดระยะเวลา 83 ปี มานั้น ประเทศไทยไม่เคยมีประชาธิปไ
ที่บอกว่ามีการตั้งกรรมการย
วิกฤติที่สร้างนั้นก็เพื่อเ
อำนาจพิเศษเหล่านี้พร้อมด้ว