ถอนฟ้องจนท.องค์การอนามัยโล กในคดีทำร้ายลูกจ้างหลังยอม ความได้
แต่ทนายชี้ไทยต้องติดตามเอา ผิดข้อหาค้ามนุษย์เพราะถือเ ป็นอาญาแผ่นดิน ส่วนเอ็นจีโอด้านแรงงานชี้ป ัญหาลูกจ้างทำงานบ้านยังมีอ ีกมากและต้องแก้ที่กฎหมาย
คดีนี้เป็นคดีที่ลูกจ้างชาว เอธิโอเปีย น.ส.เอมาเบท ฟ้องร้องนายจ้างคือน.พ.โยนั ส เทกเก้น โวลเดอแมเรียน เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์ การอนามัยโลกประจำประเทศไทย พร้อมภรรยาฐานทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว นำคนลงเป็นทาสและค้ามนุษย์ ในระหว่างที่เธอทำงานเป็นลู กจ้างบุคคลทั้งสอง
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนแล ะการพัฒนากับมูลนิธิผู้หญิง ซึ่งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลื อแก่น.ส.เอมาเบทในการฟ้องร้ องแจ้งข่าวว่า ล่าสุดจากการขึ้นศาลเมื่อ 16 พ.ย.ที่ผ่านมาที่ศาลนนทบุรี ผู้ฟ้องได้ยินยอมถอนฟ้องเนื ่องจากว่าตกลงกันได้กับคนทั ้งสองและมีการจ่ายเงินให้กั บน.ส.เอมาเบทในจำนวนที่พอใจ จึงถอนฟ้องทั้งที่ศาลนนทบุร ีและศาลแรงงานกลาง
อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ กองจันทึกจากสภาทนายความให้ ความเห็นว่า แม้ว่าจะมีการถอนฟ้องไป แต่ข้อหาเรื่องการเอาคนเป็น ทาสและการค้ามนุษย์เป็นความ ผิดที่ถือว่าเป็นอาญาแผ่นดิ น ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอา ญาระบุว่า แม้ผู้เสียหายจะถอนฟ้อง แต่คดีความที่ดำเนินการโดยอ ัยการยังคงอยู่ พร้อมกับชี้ว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นกรณี ที่ได้รับความสนใจทั้งของคน ในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงต้นสังกัด ไทยควรจะต้องสานต่อคือให้มี การสอบสวนอย่างจริงจัง
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนแล ะการพัฒนาและมูลนิธิผู้หญิง ต่างก็เรียกร้องให้รัฐบาลดู แลลูกจ้างทำงานบ้านให้ดีขึ้ น โดยบอกว่าคดีนี้เป็นตัวอย่า งของปัญหาแรงงานที่ทำงานตาม บ้านอีกจำนวนมาก โดยหลังจากที่มีการฟ้องร้อง ในกรณีนายจ้างจากองค์การอนา มัยโลกรายนี้แล้ว เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านก ็ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ที่เก ี่ยวข้องขอให้ปรับปรุงหลายด ้านที่เกี่ยวกับลูกจ้างทำงา นบ้าน เช่นขอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อใ ห้มีมาตรการคุ้มครองลูกจ้าง ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ขอให้ปรับปรุงกลไกตรวจสอบเพ ื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้ าตรวจสอบการใช้แรงงานเหล่าน ี้ได้ เป็นต้น
อุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการมูลนิธิผู้หญิงใ ห้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า การดูแลคุ้มครองคนทำงานบ้าน ในประเทศไทยยังมีช่องว่างอี กมาก ลูกจ้างที่ทำงานตามบ้านในเว ลานี้มีถึง 300,000 คน มีปัญหาทั้งเรื่องการได้รับ ค่าแรงขั้นต่ำ อุบัติเหตุจากการทำงาน ไม่ได้สวัสดิการเหมือนแรงงา นด้านอื่น การที่ลูกจ้างส่วนใหญ่อาศัย ในบ้านนายจ้าง และแรงงานต่างชาติไม่มีเอกส ารเดินทางไม่สามารถจะเข้าออ กบ้านได้อย่างเป็นอิสระ การดูแลคนกลุ่มนี้กระทำภายใ ต้กฎกระทรวงคุ้มครองลูกจ้าง ทำงานบ้าน ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอ จึงเห็นว่าทางการไทยควรจะยก เลิกกฎกระทรวงที่ว่าแล้วให้ ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองแร งงานเช่นเดียวกับแรงงานด้าน อื่นภายใต้พระราชบัญญัติคุ้ มครองแรงงาน
นอกจากนั้น องค์กรทั้งสองแห่งต่างเรียก ร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาลงน ามในอนุสัญญาขององค์กรแรงงา นระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่อ งงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้ างทำงานบ้านทั้งนี้เพื่อจะข ยายสิทธิของลูกจ้างและลดการ เลือกปฎิบัติ
แต่ทนายชี้ไทยต้องติดตามเอา
คดีนี้เป็นคดีที่ลูกจ้างชาว
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนแล
อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ กองจันทึกจากสภาทนายความให้
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนแล
อุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการมูลนิธิผู้หญิงใ
นอกจากนั้น องค์กรทั้งสองแห่งต่างเรียก
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น