เมื่อวานวันเกิด อ.วรเจตน์ ผู้เป็น “เสาหลัก” ทางวิชาการของขบวนประชาธิปไ ตย
ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลื อกตั้ง ประชาธิปไตยคู่กับนิติรัฐ ระบอบการปกครองด้วยกฎหมาย ที่ต้องใช้อย่างเสมอภาค ยุติธรรม นั่นแหละทำให้ อ.วรเจตน์เป็นเสาหลัก เป็นที่รักของมวลชนประชาธิป ไตยอย่างมากมาย
ตลอดวิกฤติ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ผมรู้จักคนเยอะแยะที่เป็น “คนดี” หรือบอกว่าตัวเองเป็น “คนดี” แต่ไม่มีใครเป็น “คนดี” และ “คนกล้า” เท่า อ.วรเจตน์ นี่ไม่ใช่มองแยกสี เพราะ “คนดี” ที่อยู่ฝ่ายเสื้อเหลืองหรือ อำมาตย์ก็มี แต่ถ้าจำกัดความคำว่า “คนดี” ในนิยามของทุกข้าง ก็ อ.วรเจตน์นี่แหละเป็นที่สุด
จะเอาเรื่องไหนล่ะ ความสัตย์ซื่อ สมถะ ไม่มุ่งหวังตำแหน่งลาภยศ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว รักลูกเมียรักแม่ดูแลแม่ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ไปถามดู นักศึกษาที่เคยเรียนกับ อ.วรเจตน์ ไม่ว่าสีไหน รู้ดีถึงความทุ่มเทเอาใจใส่ (เด็กนิติ มธ.จะรู้ว่าเรียนกับวรเจตน์ ยากและท้าทายที่สุด คนเรียนต้องอยากได้ความรู้จ ริงไม่ใช่แค่อยากได้เกรด) ความเป็นเลิศทางวิชาการ ซึ่งแม้แต่คนฝ่ายตรงข้ามก็จ ำต้องยอมรับ (และหวาดกลัว) กระทั่งความแตกฉานในพุทธปรั ชญา (ลองไปอ่านที่วิจักขณ์ พานิช เคยสัมภาษณ์)
คือในเรื่องวัตรปฏิบัติ การดำรงชีวิตส่วนตัว ศีลธรรมจรรยา ที่พวกเสื้อเหลืองนกหวีดชอบ อ้างนักหนา เอาเข้าจริง อ.วรเจตน์ก็กินขาด “คนดี” พวกนั้นส่วนมากมียศถาบรรดาศ ักดิ์ แล้วค่อยเอ่ยปากอ้างความดี พวกที่เป็นนักวิชาการแล้วไม ่ต้องการลาภยศ ตำแหน่ง มีไม่กี่คนหรอก (บางคนนั่งทับหลายเก้าอี้ด้ วยซ้ำ) แล้วเคยลองถามลูกศิษย์ไหม ว่าสอนหนังสือเป็นไง ตั้งใจ เอาใจใส่ หรือมัวแต่ไปสร้างภาพ รับทรัพย์ทำวิจัย เล่นการเมืองในสำนักงาน เล่นการเมืองในมหาวิทยาลัย วางตัวกับคนใกล้ชิดหรือคนที ่มีศักดิ์ฐานะต่ำกว่าอย่างไ ร
อันที่จริงพวกที่อยู่ตรงข้า มแล้วรู้จัก อ.วรเจตน์ ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่จะบอกว่า อ.วรเจตน์ “ไม่รู้จักแยกแยะชั่วดี” ไปแก้ต่างให้ทักษิณทำไม ทักษิณมันเลว รัฐประหารเป็นคนดี ฯลฯ เพราะพวกนี้สถาปนาตัวเป็น “คนดี” ต้องเอาชนะ “คนชั่ว” โดยไม่เลือกวิธีการ แล้วบ้านเมืองจะวัฒนาสถาพร ทั้งที่ประเด็นสำคัญที่สุดค ือจะต้องยึดหลักประชาธิปไตย และ “นิติรัฐ” สำคัญกว่าตัวบุคคล
ท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านี้ก็ หลุดไปจาก “ความดี” เพราะโมหะบดบัง บอกว่าตัวเองสัตย์ซื่อไม่โก งไม่กินแต่ทำทุกอย่างเพื่อโ กงอำนาจ ลืมตาข้างหลับตาข้าง ยอมรับการเข่นฆ่า การใช้ปืนจี้กดขี่บีฑา และความอยุติธรรม
ในวิกฤติที่ยาวนาน คนดีคนเลวก็มีทุกข้างนั่นแห ละครับ แต่คนดีคนกล้าเหนือใครคือคน ที่ไม่ได้ทำเพื่อเอาชนะ หากยืนหยัดต่อสู้ถึงที่สุดเ พื่อหลักการ (ซึ่งไม่ว่าผู้มีอำนาจข้างไ หนชนะ ก็ไม่ชอบคำนี้หรอก อ.วรเจตน์ก็วิจารณ์รัฐบาลทั กษิณด้วยหลักการเดียวกันมาแ ล้ว)
มองย้อนหลังไป ผมไม่คิดว่า อ.วรเจตน์อยากเป็นอะไรมากไป กว่าอาจารย์นิติศาสตร์คนหนึ ่ง ที่สอนกฎหมายอย่างตรงไปตรงม า แต่เพราะวิกฤติบิดเบือนเอาช นะกันอย่างไม่ตรงไปตรงมา บีบให้ อ.วรเจตน์นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องปกป้องหลักการ โดยไม่สนใจว่ายึดหลักการแล้ วใครได้ประโยชน์ ทั้งที่รู้ว่าเป็นภัยต่อชีว ิต ร่างกาย เสรีภาพ
นี่ต่างหากคือความดีความกล้ าที่แท้จริง ซึ่งหาได้ยากยิ่งในสังคมไทย
(จิ๊กภาพและคำกลอนมาจาก Kasian Tejapira )
ปล.เป็นว่าวันเกิด อ.วรเจตน์คือเมื่อวาน 55 ผมก็ไม่ได้ตามเพราะไม่ได้คบ กันเรื่องส่วนตัวมาก ขอแก้ไขนิด
ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลื
ตลอดวิกฤติ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ผมรู้จักคนเยอะแยะที่เป็น “คนดี” หรือบอกว่าตัวเองเป็น “คนดี” แต่ไม่มีใครเป็น “คนดี” และ “คนกล้า” เท่า อ.วรเจตน์ นี่ไม่ใช่มองแยกสี เพราะ “คนดี” ที่อยู่ฝ่ายเสื้อเหลืองหรือ
จะเอาเรื่องไหนล่ะ ความสัตย์ซื่อ สมถะ ไม่มุ่งหวังตำแหน่งลาภยศ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว รักลูกเมียรักแม่ดูแลแม่ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ไปถามดู นักศึกษาที่เคยเรียนกับ อ.วรเจตน์ ไม่ว่าสีไหน รู้ดีถึงความทุ่มเทเอาใจใส่
คือในเรื่องวัตรปฏิบัติ การดำรงชีวิตส่วนตัว ศีลธรรมจรรยา ที่พวกเสื้อเหลืองนกหวีดชอบ
อันที่จริงพวกที่อยู่ตรงข้า
ท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านี้ก็
ในวิกฤติที่ยาวนาน คนดีคนเลวก็มีทุกข้างนั่นแห
มองย้อนหลังไป ผมไม่คิดว่า อ.วรเจตน์อยากเป็นอะไรมากไป
นี่ต่างหากคือความดีความกล้
(จิ๊กภาพและคำกลอนมาจาก Kasian Tejapira )
ปล.เป็นว่าวันเกิด อ.วรเจตน์คือเมื่อวาน 55 ผมก็ไม่ได้ตามเพราะไม่ได้คบ