วิษณุ แจงความคืบหน้าร่าง กม.ประโยชน์ส่วนตัวขัดกับส่วนร่ วม 4 ชั่วโคตร
Posted: 22 Sep 2016 06:20 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
22 ก.ย. 2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจั ดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดอันเกิ ดจากประโยชน์ส่วนตนขัดกั บผลประโยชน์ส่วนรวมว่า วันนี้เราได้หยิบขึ้นมาใหม่ ในความหมายที่ไม่ถึงกับ 7 ชั่วโคตร จะเพียง 4 ชั่วโคตร คือผู้กระทำผิดเป็นโคตรที่ 1 ถ้าเอื้อประโยชน์ต่อลูกเป็ นโคตรที่ 2 พ่อแม่เป็นโคตรที่ 3 เอื้อประโยชน์ต่อพี่น้องเป็ นโคตรที่ 4 จบแค่นี้ แต่ไม่ใช่ว่าทำผิดและไปลงโทษ 4 ชั่วโคตรเหมือนสมัยก่อน คนที่โดนคือข้าราชการอยู่คนเดี ยว แต่ว่าเอื้อประโยชน์ต่อใคร ซึ่งขั้นตอนขณะนี้ส่งไปให้ คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจและมี การตั้งคณะพิเศษขึ้นมาเพื่อพิ จารณา ขณะนี้พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ ว ทั้งนี้ ตนเห็นว่าเป็นกฎหมายที่มี ผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่รัฐและข้ าราชการถือเป็นกฎหมายปราบโกงฉบั บแท้จริง จึงสมควรจะต้องดูให้รอบคอบ โดยตนได้ขอให้นำขึ้นเว็บไซต์เพื่ อให้ประชาชนได้ดู พร้อมส่งให้กระทรวงต่างๆ นำไปศึกษาหากคิดว่าหนักไป เบาไปหรือไม่ชัดเจน ปฏิบัติไม่ถูกก็ให้บอกมาเพื่ อจะได้ปรับปรุงแก้ไขโดยให้ เวลาประมาณเดือนเศษ และเมื่อรวบรวมความเห็นได้ และแก้ไขเรียบร้อยแล้วจะนำเข้ าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งก่อนนำเข้าสภาเพื่อแก้ ไข คาดว่าจะนำเข้าสภาได้ภายในปีนี้ และสภาจะใช้เวลาจากนี้ไป 2 เดือน
เมื่อถามว่ากฎหมายฉบับนี้จะแก้ ปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ แบบเอาอยู่หรือไม่ วิษณุกล่าวว่า เราตอบไม่ได้ว่าเอาอยู่หรือไม่ อยู่ อย่างน้อยก็จะทำให้คนหวาดกลัวว่ ามีเครื่องเอกซเรย์เราอยู่ มีคนจ้องจับผิดอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะทำต้องทำให้ แนบเนียนและระมัดระวังกว่าเดิม และไม่ใช่เรื่องที่จะไปเล่ นงานเล็กๆ น้อยๆ แล้วเรื่องใหญ่ๆ ตัวใหญ่ๆ รอด แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่ าวไม่ได้เข้มงวดจนถึ งขนาดซองจดหมายตราครุฑใบเดียวก็ ใช้ไม่ได้ ชาร์จโทรศัพท์นิดหน่อยก็ใช้ไม่ ได้ เพราะมันมีข้อยกเว้นอะไรหลายอย่ าง ถ้าอะไรเล็กน้อยก็ให้โอกาส ครม.หรือกระทรวงออกระเบียบไปว่ าขนาดนี้ยอมให้ทำ ขนาดนี้ไม่ยอมให้ทำ และในกฎหมายนี้ยังรวมถึ งใครไปเสนอโปรเจ็กต์อะไรเป็ นประโยชน์ต่อตัวเองมากกว่ าประโยชน์ต่อส่วนรวม คือถ้าเป็นประโยชน์ต่อส่วนตัว 100 เปอร์เซ็นต์ ซวยแน่ แต่ถ้าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมด้ วยแต่ของตัวเองได้ประโยชน์ มากกว่าคนที่เสนอโปรเจ็กต์เหล่ านี้ก็มีความผิดด้วย
“อย่างการรับของต่อไปจะเข้ มงวดมาถึงข้าราชการด้วย ถ้ารับมาแล้วบอกว่ารับส่วนตั วแต่เกินอัตราราคาที่ กำหนดใครได้รับไว้ต้องส่งคื อราชการใน 30 วัน ถ้าส่งคืนถือว่าไม่ผิด ถ้าไม่ส่งผิด ถ้าไม่แน่ใจราคาให้ส่งไปก่อนแล้ วค่อยตรวจสอบภายหลัง ทั้งหมดอยู่ในกฎหมายฉบับนี้” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่าถึงกรณีมีชื่อบุ ตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหมน้องชายนายกรั ฐมนตรีมีผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ เข้ามารับทำโครงการของกองทั พภาคที่ 3 นายวิษณุกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ยังไม่ออกมาบั งคับใช้และถึงจะบังคับใช้แล้ว จะผิดหรือไม่ผิดข้อเท็จจริ งตนไม่รู้
ที่มา : มติชนออนไลน์ และไทยรัฐออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น