บทที่ 25 - สถาบันสมเด็จพระจักรพรรดิ
.
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศเดี ยวในโลกปัจจุบันที่ยังมีสมเ ด็จพระจักรพรรดิ (เท็นโน 天皇) ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีเพียงพระมหากษัตริย์ (โคะคุโอ 国王)
.
ความแตกต่างระหว่างสมเด็จพร ะจักรพรรดิกับพระมหากษัตริย ์ อยู่ที่พระราชอำนาจในการปกค รองในอดีต กล่าวคือ สมเด็จพระจักรพรรดิมีพระราช อำนาจเหนือจักรวรรดิ เช่น จักรวรรดิญี่ปุ่น จักรวรรดิจีน จักรวรรดิรัสเซีย จักรวรรดิออสเตรีย ฯลฯ ส่วนพระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจ เหนือรัฐหรือประเทศ เช่น ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา ประเทศภูฏาน ประเทศสวีเดน ฯลฯ
.
สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นใ นรัชกาลปัจจุบัน นับเป็นรัชกาลที่ 125 สืบพระราชสันตติวงศ์ต่อเนื่ องมาในพระราชวงศ์เดียว ข้อนี้ถือเป็นความพิเศษของส ถาบันสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ ปุ่นครับ ในจักรวรรดิอื่นๆ มีการต่อสู้แย่งชิงพระราชบั ลลังก์ ผลัดเปลี่ยนพระราชวงศ์ไม่รู ้กี่ครั้งแล้วก็ล่มสลายไป ในขณะที่พระราชวงศ์ญี่ปุ่นย ืนยงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบ ัน
.
ไม่ใช่ว่าทรงมีพระราชอำนาจเ ด็ดขาดหรอกครับ สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นก ่อนการปฏิรูปสมัยเมจิก็ไม่ต ่างอะไรกับนกน้อยในกรงทอง ทรงมีสถานะเป็นเทพเจ้าในร่า งมนุษย์ เป็นผู้นำทางศาสนา อาจจะถึงขั้นว่าเป็นผู้นำทา งจิตวิญญาณ แต่อำนาจการปกครองตกอยู่ในม ือของโชกุนและเจ้าเมือง
.
โชกุนไม่ปลงพระชนม์สมเด็จพร ะจักรพรรดิ เพราะสมเด็จพระจักรพรรดิทรง เป็นเทพในความเชื่อของคนญี่ ปุ่น การปลงพระชนม์จะทำให้ผู้คนล ุกฮือขึ้นต่อต้าน แต่การควบคุมดูแลอย่างใกล้ช ิดอยู่ในวิสัยที่กระทำได้ ขอแค่พระองค์ไม่ขัดขืนอำนาจ ของโชกุน พระองค์ก็จะทรงเป็นที่เคารพ สักการะต่อไปได้เรื่อยๆ
.
อำนาจการปกครองญี่ปุ่นกลับม าอยู่ในพระราชอำนาจของสมเด็ จพระจักรพรรดิอีกครั้งภายหล ังการปฏิรูปรัชสมัยสมเด็จพร ะจักรพรรดิเมจิ (มุตสึฮิโตะ) ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นรัฐสมบูร ณาญาสิทธิราชย์และเป็นจักรว รรดิอย่างแท้จริง
.
ในช่วงเวลาประมาณ 100 ปีหลังจากนั้น สถาบันสมเด็จพระจักรพรรดิได ้รับการพัฒนาอย่างถึงขีดสุด สถานะของพระองค์ถูกขับเน้นค วามสำคัญมากขึ้นในฐานะของผู ้สืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้า ได้รับสิทธิขาดในการปกครองเ หนือจักรวรรดิทั้งมวล ทรงอยู่เหนือคนธรรมดา เวลาพูดจาต้องใช้ภาษาพิเศษ คนธรรมดาจะแตะต้องพระวรกายไ ม่ได้ แม้แต่จะยืนทับพระฉายา (เงา) ของพระองค์ก็ไม่ได้ เป็นบาปหนัก
.
ช่วงต้นสมัยโชวะ เชื่อกันว่าสมเด็จพระจักรพร รดิทรงมีมหิทธานุภาพมาก คนธรรมดาจะมองพระองค์โดยตรง ไม่ได้ รัศมีของพระองค์จะทำให้ตาบอ ด หากพระองค์เสด็จผ่านที่ใด ประชาชนต้องก้มหน้ามองดิน
.
ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม สหรัฐอเมริกาก็เข้ามาจัดการ การเมืองภายในญี่ปุ่น ตอนแรกก็มองว่าสมเด็จพระจัก รพรรดิโชวะ (ฮิโระฮิโตะ) เป็นอาชญากรสงคราม แต่ถ้าจะจับกุมพระองค์ไปลงโ ทษ คนญี่ปุ่นกว่าค่อนประเทศก็จ ะฆ่าตัวตายตามพระองค์ แล้วสหรัฐอเมริกาก็จะอยู่ใน ญี่ปุ่นได้ยาก งั้นก็เก็บพระองค์ไว้ดีกว่า เพื่อรักษาน้ำใจของคนญี่ปุ่ นเอาไว้
.
แต่จะให้สมเด็จพระจักรพรรดิ มีพระราชอำนาจมากอย่างเมื่อ ก่อนนี้ไม่ได้ ในปีถัดจากสงครามโลกยุติลง สหรัฐอเมริกาขอให้สมเด็จพระ จักรพรรดิโชวะทรงประกาศยอมร ับว่าพระองค์ไม่ได้เป็นเทพ พระองค์ทรงเป็นคนเดินดินธรร มดา ไม่ต่างจากประชาชนโดยทั่วไป
.
สมเด็จพระจักรพรรดิทรงเป็นส ัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ทรงเป็นที่เคารพสักการะ อยู่เหนือการเมือง ในขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ภาย ใต้การกำกับควบคุมของรัฐบาล จะทรงทำอะไรเองตามใจไม่ได้ จะเสด็จออกมหาสมาคมหรือมีพร ะราชดำรัสออกสื่อก็ต้องมีร่ างสคริปต์ให้ตรวจ จะไปไหนมาไหนก็ต้องแจ้งให้ร ัฐบาลทราบ ไม่ต่างอะไรกับนกน้อยในกรงท องในสมัยที่ยังมีโชกุน
.
สถาบันสมเด็จพระจักรพรรดิใน สมัยโชวะ อยู่ก้ำกึ่งระหว่างความจังร ักภักดีและความเกลียดชังครั บ คนส่วนใหญ่น่าจะยังจงรักภัก ดีต่อสถาบันฯ ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งที่ได้ รับผลกระทบจากสงคราม เช่น ในโอะกินะวะและไซปัน ก็มองสถาบันในแง่ลบ สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะไม่ไ ด้รับการต้อนรับจากคนในพื้น ที่นั้นเลยตลอดรัชสมัยของพร ะองค์
.
สถานะของสถาบันฯ เพิ่งเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งใ นช่วงปลายสมัยโชวะ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยเฮเซ (ปัจจุบัน) สมเด็จพระจักรพรรดิเฮเซ (อะกิฮิโตะ) องค์ปัจจุบันทรงพยายามใกล้ช ิดกับประชาชนนับตั้งแต่ครั้ งแรกที่ขึ้นครองราชย์ ทรงเสด็จออกมหาสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสด้วยถ้อยคำ ธรรมดา เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย แตกต่างจากสมเด็จพระบรมชนกน าถที่แม้ประกาศพระองค์เป็นป ุถุชน แต่ยังทรงตรัสด้วยภาษาที่เข ้ายากสำหรับคนทั่วไป
.
สมเด็จพระจักรพรรดิเฮเซทรงเ สด็จประพาสเยี่ยมเยือนประชา ชนในภูมิภาคต่างๆ ทรงประทับบนพื้นเสมอด้วยประ ชาชนธรรมดา ทรงยอมรับความผิดของพระราชว งศ์ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก ทรงตรัสแสดงความรับผิดชอบต่ อความสูญเสียของทุกฝ่าย แม้พระราชจริยจัตรของพระองค ์ไม่ได้ช่วยลบภาพความโหดร้า ยของญี่ปุ่นในยุคนั้น แต่ก็ช่วยให้สถานะของสถาบัน ฯ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้ นกว่าเดิม
.
จนถึงตอนนี้ คนรุ่นใหม่ที่เกิดมาในสมัยเ ฮเซ (ปัจจุบันเป็นปีเฮเซที่ 27) อาจไม่ได้เคารพสักการะสมเด็ จพระจักรพรรดิเสมือนเทพเหมื อนอย่างเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีคนที่คิดว่าพระอง ค์เป็นสัญลักษณ์ที่สืบทอด “ความเป็นญี่ปุ่น” ต่อเนื่องจากอดีตมาจนถึงปัจ จุบัน คนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งมองว่า สถาบันฯ กับประเทศญี่ปุ่นมีอายุเท่า กัน เป็นตัวแทนของกันและกันได้ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปก ็เหมือนว่า “ญี่ปุ่น” ไม่ครบองค์
.
ถ้าใครมาญี่ปุ่นช่วงนี้แล้ว เจอหนังสือเฉลิมพระเกียรติส มเด็จพระจักรพรรดิโชวะวางขา ยอยู่ทั่วไป ไม่ต้องแปลกใจครับ นี่เป็นวิธีหนึ่งในการเฉลิม ฉลอง 70 ปี ยุติสงครามโลกครังที่ 2 - แทนที่จะฉลองความพ่ายแพ้ของ ญี่ปุ่น ก็เลือกเฉลิมพระเกียรติสมเด ็จพระจักรพรรดิพระองค์ก่อนแ ทน
.
รัตนาดิศร
14 สิงหาคม 2558
ฮันไดเบียวอิน
.
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศเดี
.
ความแตกต่างระหว่างสมเด็จพร
.
สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นใ
.
ไม่ใช่ว่าทรงมีพระราชอำนาจเ
.
โชกุนไม่ปลงพระชนม์สมเด็จพร
.
อำนาจการปกครองญี่ปุ่นกลับม
.
ในช่วงเวลาประมาณ 100 ปีหลังจากนั้น สถาบันสมเด็จพระจักรพรรดิได
.
ช่วงต้นสมัยโชวะ เชื่อกันว่าสมเด็จพระจักรพร
.
ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม สหรัฐอเมริกาก็เข้ามาจัดการ
.
แต่จะให้สมเด็จพระจักรพรรดิ
.
สมเด็จพระจักรพรรดิทรงเป็นส
.
สถาบันสมเด็จพระจักรพรรดิใน
.
สถานะของสถาบันฯ เพิ่งเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งใ
.
สมเด็จพระจักรพรรดิเฮเซทรงเ
.
จนถึงตอนนี้ คนรุ่นใหม่ที่เกิดมาในสมัยเ
.
ถ้าใครมาญี่ปุ่นช่วงนี้แล้ว
.
รัตนาดิศร
14 สิงหาคม 2558
ฮันไดเบียวอิน
