เศรษฐกิจอินเดียโตน้อยกว่าที่ประเมินไว้
ทางการอินเดียเผยว่าระหว่างเดือนเม.ย. – มิ.ย. ที่ผ่านมา เศรษฐกิจอินเดียโต 7% ซึ่งต่ำกว่าช่วงไตรมาสแรกของปีที่โต 7.5 % และต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้
อย่างไรก็ตาม อินเดียกับจีนซึ่งในไตรมาสที่สองมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 7% ยังคงจัดเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุด ในบรรดาประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตของโลก แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนเห็นว่า ตัวเลขของทางการอาจไม่ได้เป็นตัวเลขที่สะท้อนการเติบโตที่แท้จริง
ชิลาน ชาห์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำ แคปิตอล อีโคโนมิกส์ ชี้ว่า ตัวเลขที่เผยออกมาอาจสูงเกินกว่าการเติบโตที่แท้จริงไปค่อนข้างมาก “เพราะไม่สอดคล้องกับตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นอีกหลายด้าน ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจอินเดียเพียงแค่กำลังเริ่มฟื้นตัว จากที่ก่อนหน้านี้เติบโตอย่างเชื่องช้ามาร่วม 3 ปี”
ความเป็นห่วงเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มกำลังเล็งไปที่อินเดียว่า อาจช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกได้ และมีนักเศรษฐกิจที่คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวเกิน 7% โดย มธาวี อโรรา นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคาร โกทาค มหินทรา ในนครมุมไบบอกว่า ผิดหวังกับตัวเลขการเติบโตในไตรมาสที่สอง แต่โดยรวมแล้ว ทางธนาคารเชื่อว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวขึ้นโดยมีปัจจัยหนุนมาจากการบริโภคภายในประเทศ “ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถูกลง น่าจะช่วยกระตุ้นให้บริษัทหลายแห่งมีกำไรเพิ่มขึ้นและภาคครัวเรือนใช้จ่ายเพิ่มขึ้น” อโรรา กล่าว
ส่วนไซมอน อัทคินสัน บรรณาธิการรายการอินเดีย บิซิเนส รีพอร์ต ของบีบีซี เชื่อว่า มีหลายฝ่ายที่ผิดหวังกับตัวเลขที่ออกมา มีนักเศรษฐศาสตร์บางคนเชื่อว่า เศรษฐกิจอินเดียน่าจะขยายตัวเกือบถึง 8% และมากกว่าของจีน แต่ที่ตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่ประเมินไว้น่าจะเป็นผลมาจากภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง ซึ่งนับว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เพราะรัฐบาลได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นภาคการผลิต ส่วนการขยายตัวจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.- ก.ย. หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ เพราะเป็นฤดูมรสุม ถ้าฝนตกตามฤดูกาล จะส่งผลดีต่อภาคการเกษตร แต่เท่าที่เห็นตอนนี้หลายแห่งมีฝนน้อยกว่าที่คาดไว้
ภาพประกอบ - แฟ้มภาพ



 
Top