0
หลานสาวพลทหารที่ตายระหว่างฝึกซ้อม ยืนยันสู้เพื่อความยุติธรรรม ขณะนี้ถูกนำตัวจาก กรุงเทพฯ ไปสอบปากคำที่ นราธิวาส
น.ส. พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยว่า น.ส. นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเสียชีวิตระหว่างฝึกซ้อมทหารใหม่ในค่ายทหาร ที่จ.นราธิวาส กำลังถูกนำตัวจากสถานีตำรวจนครบาลมักกะสันไปยังสถานีตำรวจภูธร เมืองนราธิวาส เนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษที่นั่น โดยแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และกระทำผิดพระราชบัญญัติพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ทั้งนี้ น.ส. นริศราวัลถ์ พำนักและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ แต่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษและมีการออกหมายจับที่นราธิวาส เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่ทราบผู้ร้องทุกข์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นราธิวาสได้ประสานให้ สน. มักกะสันดำเนินการจับกุม คาดว่า น.ส. นริศราวัลถ์ จะถูกนำตัวถึง สภ.นราธิวาสในคืนนี้
ด้านน.ส. นิรศราวัลถ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสั้นๆ ยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและพร้อมสู้คดีในชั้นศาล และยืนยันว่าไม่ได้โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท บิดเบือน หรือโกหกแต่โพสต์ข้อเท็จจริงที่เกิดในขั้นตอนการเรียกร้องความยุติธรรมในกรณีของน้าชาย
พลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเป็นน้าชายของ น.ส. นริศราวัลถ์ ชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2554 โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง โดยพลทหารวิเชียรเสียชีวิตระหว่างประจำการและฝึกซ้อมทหารใหม่ที่ เสียชีวิตระหว่างฝึกซ้อมทหารใหม่ในค่ายทหาร ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ตามสำนวนที่ครอบครัวของพลทหารวิเชียรฟ้องแพ่งต่อกระทรวงกลาโหม เป็นจำเลยที่ 1 กองทัพบกเป็นจำเลย ที่ 2 และสำนักนายกรัฐมนตรี (ต้นสังกัดกอ.รมน.) เป็นจำเลยที่ 3 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในสังกัดของกองทัพบกได้ทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียรในระหว่างการฝึกทหารใหม่อย่างทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุให้ผลทหารวิเชียรถึงแก่ความตาย ซึ่งจำเลยประสงค์ไกล่เกลี่ย และศาลแพ่งพิพากษาให้กองทัพบกจ่ายค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2557 ตามที่ได้ไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันเป็นจำนวนเงิน 6.5 ล้านบาท
สำหรับคดีอาญานั้น มารดาของพลทหารวิเชียรได้แจ้งแจ้งความดำเนินคดีกับครูฝึกทหารใหม่และทหารที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียรจนถึงแก่ความตายต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุแล้ว และเนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารทั้งหมด ดังนั้นคดีจึงอยู่ในเขตอำนาจศาลทหาร ซึ่งผู้เสียหายไม่สามารถฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้เอง ตามพรบ. พระธรรมนูญ ศาลทหาร 2498 มาตรา 49 ให้พนักงานอัยการทหารเท่านั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลทหาร ปัจจุบัน คดีอยู่ในระหว่างการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ (ปปท.)

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top