(ภาพผู้ประท้วงชาวอิหร่านที ่หน้าสถานทูตซาอุฯ ในกรุงเตหะราน)
สัมพันธ์ซาอุฯ-อิหร่านร้าวฉ านหนักในรอบ 30 ปี
การสังหารเชคนิมร์ อัล-นิมร์ ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะห์คนสำ คัญซึ่งซาอุดีอาระเบียระบุว ่ามีความผิดฐานก่อการร้าย ตามมาด้วยเหตุโจมตีสถานทูตซ าอุดีอาระเบียในกรุงเตหะราน ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่า งซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านเ ดินมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าร ้าวฉานที่สุดในรอบ 30 ปี และจะส่งผลพวงให้โอกาสในการ แก้วิกฤตทางการทูตระหว่างซี เรียกับเยเมนยิ่งห่างไกลออก ไปทุกที
คริสเตียน โคอาเทส อุลริชเซิน นักวิจัยในโครงการตะวันออกก ลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งทำงานร่วมกับสถาบัน Chatham House ในกรุงลอนดอน เห็นว่าความไม่ลงรอยกันในคร ั้งนี้ร้ายแรงพอ ๆ กับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงทศว รรษ 1980 (พ.ศ.2523-2532) ซึ่งสองชาติเคยตัดสัมพันธ์ก ันมาแล้วในปี 2531-2534
ซาอุดีอาระเบียและรัฐบาลชาต ิอาหรับในอ่าวเปอร์เชียนั้น เชื่อมโยงรัฐบาลอิหร่านในยุ คหลังการปฏิวัติอิสลามกับกา รเติบโตของนักรบชีอะห์ กับการปฏิวัติที่ล้มเหลวในบ าห์เรนเมื่อปี 2524 และกับความพยายามลอบสังหารผ ู้นำคูเวตในอีกสี่ปีถัดมา
ในขณะที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ อัล เฮจัซ องค์กรซึ่งได้รับการหนุนหลั งโดยอิหร่าน ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 ตามแนวทางกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ในเลบานอน เคยออกแถลงการณ์ข่มขู่ราชวง ศ์ซาอุฯ อยู่เนือง ๆ รวมทั้งก่อเหตุโจมตีหลายครั ้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตใน ช่วงปลายทศวรรษ 1980 (พ.ศ.2523-2532) ซึ่งขณะนั้นความสัมพันธ์ระห ว่างอิหร่านและซาอุฯ ตึงเครียดมากขึ้น
สำหรับเหตุผลที่ทำให้นักวิจ ัยในโครงการตะวันออกกลางและ แอฟริกาเหนือ ซึ่งทำงานร่วมกับสถาบัน Chatham House มองว่าความขัดแย้งครั้งล่าส ุดนี้ถือได้ว่าอันตรายพอ ๆ กับเมื่อกว่า 30 ปีก่อนนั้น ก็ด้วยเหตุผลหลัก ๆ สามประการ
ประการแรกความแตกต่างทางนิก ายในการนับถือศาสนา เป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแ ย้งระหว่างชาวซุนนีกับชีอะห ์และทำให้เกิดความไม่ไว้เนื ้อเชื่อใจกันระหว่างอิหร่าน กับชาติเพื่อนบ้านในอ่าวเปอ ร์เชีย บรรยากาศความขัดแย้งที่พร้อ มปะทุได้ทุกเมื่อเช่นนี้ ทำให้กลุ่มสายกลางอ่อนแอ ขณะที่ฝ่ายที่ยึดมั่นในหลัก การจัดการปัญหาความสัมพันธ์ ในภูมิภาคต่างพากันสงวนท่าท ี
ประการที่สอง ในช่วงสี่ปีมานี้ชาติในอ่าว เปอร์เชียต่างดำเนินนโยบายต ่างประเทศในเชิงแข็งกร้าวมา กขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อตอบโต้ที่อ ิหร่านเข้ามาก้าวก่ายความขั ดแย้งในภูมิภาค อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะไม่ วางใจบทบาทของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง หลายชาติในอ่าวเปอร์เชียเห็ นว่าภัยคุกคามจากอิหร่านไม่ ได้มีเพียงโครงการนิวเคลียร ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงภัยที่จะเกิดจา กกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ และกลุ่มกบฏฮูธีที่อิหร่านส นับสนุนด้วย ขณะที่การประกาศจัดตั้งกองก ำลังพันธมิตรต่อต้านการก่อก ารร้ายนำโดยซาอุดีอาระเบียล ่าสุดก็ชี้ให้เห็นว่าซาอุฯ จะไม่ยอมประนีประนอมอีกต่อไ ปแล้ว
ประการสุดท้าย อุลริชเซิน เห็นว่าการประกาศตัดสัมพันธ ์ทางการทูตระหว่างซาอุฯ และอิหร่าน เปรียบได้กับเสียงระฆังแห่ง ความหายนะในแง่ของความพยายา มแก้วิกฤตสงครามความขัดแย้ง ระหว่างเยเมนกับซีเรีย และทำให้ความตกลงหยุดยิงที่ เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนธันว าคมที่ผ่านมาไร้ผล ขณะที่การเจรจาที่มีสหประชา ชาติเป็นตัวกลางซึ่งมีกำหนด จะเริ่มขึ้นอีกครั้งกลางเดื อนมกราคมนี้และเจรจาสันติภา พซีเรียที่จะจัดขึ้นปลายเดื อน ม.ค.นี้ที่เจนีวาอาจไม่เกิด ขึ้น หากทั้งซาอุฯ และอิหร่าน ต่างพัวพันกับความขัดแย้งที ่ร้าวลึกนี้เสียเอง #Iransaudi #Iransaudiarabia#AlNimr
การสังหารเชคนิมร์ อัล-นิมร์ ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะห์คนสำ
คริสเตียน โคอาเทส อุลริชเซิน นักวิจัยในโครงการตะวันออกก
ซาอุดีอาระเบียและรัฐบาลชาต
ในขณะที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ อัล เฮจัซ องค์กรซึ่งได้รับการหนุนหลั
สำหรับเหตุผลที่ทำให้นักวิจ
ประการแรกความแตกต่างทางนิก
ประการที่สอง ในช่วงสี่ปีมานี้ชาติในอ่าว
ประการสุดท้าย อุลริชเซิน เห็นว่าการประกาศตัดสัมพันธ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น