0
โครงการอัพโหลดสมองและจิตใจเข้าร่างใหม่ ใกล้จะเป็นจริงแล้วหรือไม่ ?

นายดมิทรี อิทซ์คอฟ มหาเศรษฐีรัสเซียซึ่งร่ำรวยขึ้นมาจากธุรกิจสื่อทางอินเตอร์เน็ต เป็นผู้ริเริ่มลงทุนในโครงการ 2045 Initiative ซึ่งมุ่งสร้างความเป็นอมตะของมนุษย์ให้ได้ภายในปี 2045 ซึ่งภารกิจหนึ่งในโครงการนี้ คือการค้นหาวิธีโยกย้ายถ่ายเทข้อมูลในสมองและจิตใจของมนุษย์ไปยังร่างใหม่ ซึ่งอาจเป็นร่างโคลนหรือร่างหุ่นยนต์ให้ได้ในอีก 30 ปีข้างหน้า ซึ่งนายอิทซ์คอฟมั่นใจมากว่า โครงการนี้จะต้องประสบความสำเร็จภายในเวลาที่กำหนด มิเช่นนั้นเขาเองก็จะต้องแก่ตายเหมือนคนอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้คนทั่วโลกต่างตั้งข้อสงสัยว่า การเคลื่อนย้ายความคิดจิตใจของมนุษย์ไปยังร่างใหม่เพื่อความเป็นอมตะนั้นจะทำได้จริงหรือไม่ ดร. แรนดัล โคเน่ นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยบอสตันซึ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของโครงการ 2045 Initiative บอกว่า เรื่องที่นายอิทซ์คอฟตั้งเป้าหมายไว้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันตามแบบนิยายวิทยาศาสตร์ เพราะในทางทฤษฎีแล้วสามารถเป็นไปได้จริง แม้ว่าจะทำได้ยากมากก็ตาม โดยอันดับแรกจะต้องไขความลับการทำงานอันซับซ้อนของสมอง ซึ่งประกอบไปด้วยเซลล์ประสาทราว 86,000 ล้านเซลล์ที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายในหลากหลายรูปแบบให้ได้เสียก่อน เพราะยังไม่มีใครรู้ว่า สมองสร้างความคิดจิตใจ ความทรงจำและความรู้สึกของมนุษย์ขึ้นมาได้อย่างไร

นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่า สมองสร้างตัวตนภายในของมนุษย์ขึ้นมาได้จากการทำงานในแบบเดียวกับคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลข้อมูลนั่นเอง ดร. เคน เฮย์เวิร์ธ นักประสาทวิทยาที่ทำงานในโครงการ 2045 Initiative เป็นคนหนึ่งที่เชื่อเช่นนี้ โดยเขามองว่า หากสามารถทราบถึงแบบแผนขั้นตอนของกระบวนการทำงานแบบคอมพิวเตอร์ในสมองได้ ก็จะสามารถลอกแบบหรือทำซ้ำข้อมูลที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นความคิดจิตใจของคนเราได้ โดยดร. เฮย์เวิร์ธต้องการไขรหัสแบบแผนการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาททั้งหมดในสมองมนุษย์ ซึ่งเขาเรียกว่า connectome ออกมาให้ได้ แต่ก็น่าจะทำได้ยากยิ่ง เพราะเพียงการไขรหัส connectome ในสมองของแมลงวันก็ใช้เวลานานถึงสองปีแล้ว

นอกจากนี้ การอัพโหลดสมองและจิตใจเข้าร่างใหม่ ยังต้องใช้ความรู้เรื่องแบบแผนปฏิสัมพันธ์ที่เซลล์ประสาทส่งกระแสประสาทถึงกันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ซึ่งก็เป็นภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ราฟาเอล ยูสท์ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการ Brain Initiative ซึ่งเป็นโครงการวิจัยด้านประสาทวิทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกบอกว่า ขณะนี้ตัวเขาสามารถบันทึกภาพการส่งกระแสไฟฟ้าที่ควบคุมการทำงานของเซลล์ประสาททั่วร่างกายสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กอย่างไฮดร้าได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าการส่งกระแสประสาทเป็นแบบแผนต่าง ๆ เหล่านี้ หมายความว่าอย่างไร

แม้โลกจะมีความก้าวหน้าในวิทยาการด้านประสาทวิทยาระดับนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ยังมองว่า การอัพโหลดสมองและจิตใจเข้าร่างใหม่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะสมองมีพลวัตที่ซับซ้อน และเราไม่สามารถลดทอนความคิดจิตใจ การรับรู้ความงาม ความรู้สึกรักหรือเกลียดให้เป็นเพียงตัวเลขสำหรับเข้ารหัสประมวลผลได้ นอกจากนี้ หากสามารถคิดค้นเทคโนโลยีดังกล่าวได้สำเร็จ ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาทางจริยธรรม เพราะจะต้องมานิยามกันใหม่ว่า อะไรคือตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ ซึ่งเรื่องนี้ศาสตราจารย์ราฟาเอล ยูสท์ บอกว่า เขาจะเดินหน้าค้นคว้าเรื่องนี้ต่อไป เพราะยึดถือตามหลักการที่องค์ดาไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตบอกกับเขาเมื่อสามปีก่อนว่า เขาจะเดินหน้าทำสิ่งใดก็ได้ หากมีเจตนาที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top