คสช.เผยแก้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเพื่อร่นระยะเวลา แต่ไม่ได้ตัดขั้นตอนวิเคราะห์ผลกระทบอีไอเอ
หลังจากที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็นคัดค้านการอาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ออกคำสั่งให้แก้ไขกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยให้หน่วยงานรัฐทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้คัดเลือกเอกชนเข้ามาดำเนินโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนได้ก่อนแม้จะยังไม่ได้รับอนุมัติในเรื่องของรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ล่าสุด คสช.ออกมายืนยันว่าคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นเพื่อลดระยะเวลาแต่ไม่ได้ตัดขั้นตอนวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทิ้งไป
สำนักข่าวไทยรายงานว่า พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้แถลงเรื่องดังกล่าวหลังจากที่นาย จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการวิจารณ์เรื่องนี้ผ่านงานเสวนาภาษาสิงห์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.อ.ปิยพงศ์ ยืนยันว่า เป็นเพียงการเร่งรัดโครงการต่าง ๆ ที่ยังคั่งค้างอยู่ แต่จะไม่ลงนามเพื่อให้มีผลผูกพันกับบริษัทเอกชนที่รับจ้างดำเนินโครงการ ในเวลาเดียวกันโครงการต่าง ๆ ยังต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอเช่นเดิม
ก่อนหน้านี้ มีหลายองค์กรได้ออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน อาทิ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจเกินจำเป็น ทำลายหลักการหรือเจตนารมณ์ที่สำคัญของกฎหมายแห่งชาติ และใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์หรือคืนความสุขให้กลุ่มทุน ขณะที่พรรคเพื่อไทยมองว่าการออกคำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ ที่หากดำเนินการโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะต้องถูกคัดค้าน
นอกจากนี้องค์กรและเครือข่ายภาคประชาชน 46 แห่ง ได้ออกแถลงการณ์ร่วมคัดค้านคำสั่งของหัวหน้า คสช.ที่ 9/2559 ในเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่ารัฐบาลส่งสัญญาณมุ่งเน้นเร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการคมนาคม ท่าเรือ ระบบรถไฟ ทางด่วน และโครงการชลประทานขนาดใหญ่ เช่น เขื่อน ที่มักมีปัญหาเกี่ยวข้องกับการทำลายระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว#Environment
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น