0

กกต. ถังแตก เงินสะสมเหลือแค่ 72 ล้านบาท 
-------------
(ภารกิจส่วนใหญ่ของ กกต. ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งหยุดชะงัก
แต่สำนักงานฯ กลับมีการแต่งตั้งผู้บริหารเพิ่ม มีการยกฐานะทุกจังหวัดเป็นระดับสูง ไม่ว่าจะจังหวัดเล็กหรือใหญ่ ซึ่งสร้างภาระงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ข้อเท็จจริงระดับจังหวัดขาดแคลนพนักงานระดับปฏิบัติหลายตำแหน่ง กลับไม่มีการเปิดสอบทดแทนในส่วนนี้เลย)
--------------
กกต.เหลือเงินสะสมแค่ 72 ล้านบาท พนง.ป่วนร่อนหนังสือถึงผู้บริหารขอความเป็นธรรม หลังสนง.เล็งตัดเงินค่าตอบแทน วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 18:38 น.
28 ก.พ. 59 รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่าขณะนี้มีการเผยแพร่เอกสารร้องขอความเป็นธรรมของพนักงาน กกต. ต่อคณะกรรมการ กกต.ในแอพพลิเคชั่น "ไลน์" ของผู้บริหารสำนักงานฯ และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกรณีที่สำนักงาน กกต.มีแนวความคิดที่จะตัดเงินค่าตอบแทนต่างๆ ของพนักงาน ทั้งเงินค่าครองชีพ เงินค่าตอบแทนประจำตำแหน่งของผู้บริหาร เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ดี เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะการเงินการคลังของสำนักงานที่ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาด้านการบริหาร โดยงบประมาณอาจไม่พอใช้จ่ายสำหรับการปฏิบัติงานของสำนักงานฯ ทำให้พนักงานฯ เห็นว่าเป็นการบั่นทอน ทำลายขวัญและกำลังใจของพนักงานทุกคนเป็นอย่างมาก ซึ่งจะกระทบการดำรงชีวิตของพนักงานที่ส่วนใหญ่และอาจกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน
นอกจากนี้ ยังขอให้กกต.พิจารณาเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกกต. ทั้งนี้ ในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ยังตั้งคำถามต่อผู้บริหารถึงสาเหตุที่ทำให้สำนักงานฯ ต้องประสบกับปัญหาด้านการเงินจนต้องมาพิจารณาปรับลดค่าตอบแทนพนักงานทุกระดับ ว่ามาจากการบริหารงานเกี่ยวกับโครงสร้างของสำนักงานที่ผิดพลาดหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศอยู่ภายใต้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภารกิจส่วนใหญ่ของ กกต. ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งหยุดชะงัก
แต่สำนักงานฯ กลับมีการแต่งตั้งผู้บริหารเพิ่ม มีการยกฐานะทุกจังหวัดเป็นระดับสูง ไม่ว่าจะจังหวัดเล็กหรือใหญ่ ซึ่งสร้างภาระงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ข้อเท็จจริงระดับจังหวัดขาดแคลนพนักงานระดับปฏิบัติหลายตำแหน่ง กลับไม่มีการเปิดสอบทดแทนในส่วนนี้เลย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ปัจจุบัน สำนักงาน กกต.มีปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณค่อนข้างมาก เนื่องจากมีพนักงานทั้งประเทศ 2,500 คน งบประมาณประจำปีที่ขอไปทุกปี ปีละประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะได้รับการจัดสรรเพียง 1,700-1,800 ล้านบาท
โดยสำนักงบประมาณจะแจ้งให้ กกต.ใช้เงินเหลือจ่ายสะสมของกกต.ที่เหลือจากการจัดการเลือกตั้ง แล้วไม่ได้นำส่งคืนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนับแต่ก่อตั้ง กกต. มีเงินเหลือจ่ายสะสมประมาณ 5,000 ล้านบาทเศษ แต่นับแต่ปี 2549-2559 กกต. ใช้เงินเหลือจ่ายสะสมที่มีไปในกิจการต่างๆ อาทิ การก่อสร้างสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด การเลือกตั้งทั่วไปบางส่วน การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ในทุกครั้ง และที่สำคัญคือค่าตอบแทนต่างๆ ของพนักงาน กระทั่งปัจจุบัน กกต. เหลือเงินสะสมดังกล่าวอยู่เพียง 72 ล้านบาท
ทางสำนักงานฯ จึงเห็นว่าการเงินของสำนักงานฯ อยู่ในภาวะวิกฤต จึงจำเป็นที่จะต้องลดรายจ่ายลง ประกอบกับในส่วนของเงินส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ดีที่จ่ายให้พนักงานทุกระดับและลูกจ้างนั้น มีข้อท้วงติงจากสำนักงบประมาณและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ในทำนองว่าการใช้จ่ายเงินดังกล่าวอาจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากระเบียบการใช้จ่ายเงินดังกล่าวไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี.


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top