ผู้นำอินเดียและรัสเซียตกลงกันชื่นมื่น
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แสดงความปลื้มปิติกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศหลังจากลงนามในข้อตกลงหลายฉบับทั้งด้านกลาโหม พลังงานและอื่น ๆ
ประธานาธิบดีปูตินประกาศว่ารัสเซียจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายโรงในอินเดียตลอดช่วงสองทศวรรษข้างหน้า โดยสองโรงแรกกำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการ
ในระหว่างการเยือนรัสเซียของนายโมดี มีการลงนามในข้อตกลงต่างๆ รวมมูลค่าประมาณ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.5 แสนล้านบาท) ซึ่งจำนวนมากเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการซื้อขีปนาวุธ เอส-400 ที่เป็นอาวุธทันสมัยที่สุดของรัสเซีย
"ผมเห็นรัสเซียเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของอินเดีย” โมดีกล่าวหลังจากเขาและปูตินเห็นชอบกับการลดเงื่อนไขเกี่ยวกับวีซ่าระหว่างสองประเทศ
โมดีต้องการให้รัสเซียเข้าร่วมในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ขณะที่รัฐบาลของเขาพยายามปรับปรุงเครือข่ายรถไฟของอินเดียและสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งสองเห็นชอบกับสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐอันตรประเทศที่อยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย รัสเซียกำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐทมิฬนาฑู ที่อยู่ใกล้เคียง โมดีบอกว่ารัสเซียตกลงที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมด 12 โรงในช่วงเวลาที่ไม่ได้กำหนด
ข้อตกลงต่างๆ ที่ลงนามไปแล้วได้แก่ การร่วมกันสร้างเฮลิค็อปเตอร์เอนกประสงค์คามอฟ-226 เครื่องบินรบและเครื่องบินขนส่ง การเพิ่มหุ้นของอินเดียในบ่อน้ำมันแวนเคอร์ในไซบีเรียที่เป็นของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย รอสเนฟต์ การร่วมมือสำรวจและผลิตไฮโดรคาร์บอนในรัสเซีย การมีส่วนร่วมของอินเดียในบรรษัทผลิตเพชรของรัสเซีย อัลโรซา เพื่อผลิตเพชรเจียระไนร้อยละ 65 ของปริมาณการผลิตทั้งโลก
ประธานาธิบดีปูตินบอกว่ารัสเซียสนับสนุน “บทบาทที่เข้มแข็งมากขึ้นของอินเดียในการแก้ไขปัญหาระดับโลกและภูมิภาค” และอินเดียเป็น “หนึ่งในตัวเลือกที่ทรงเกียรติที่สุด” สำหรับการเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
รัสเซียและอินเดียเคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดในช่วงสงครามเย็น แต่ความสัมพันธ์ในช่วงหลังมีความซับซ้อนมากขึ้น มีการเจรจาระหว่างสองประเทศเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2543 โดยแต่ละฝ่ายจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพ
การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (3.6 แสนล้านบาท) และรัสเซียเป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่อันดับสองให้กับอินเดีย แต่ก่อนหน้านี้ในปีนี้ มีรายงานว่าอินเดียไม่พอใจที่รัสเซียขายเฮลิค็อปเตอร์โจมตีให้กับปากีสถาน ส่วนรัสเซียก็ไม่พอใจที่อินเดียเลือกซื้อเครื่องบินรบราฟาเลของฝรั่งเศสกับเฮลิค็อปเตอร์อาปาเช่ของสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นของรัสเซีย
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น