0

ศาลจังหวัดเกาะสมุยชี้พยานหลักฐานดีเอ็นเอเป็นหลักฐานมัด 2 จำเลยคดีฆาตรกรรมเกาะเต่า
ศาลจังหวัดเกาะสมุยตัดสินพิพากษาประหารชีวิต นาย ซอ ลิน และไว เพียว จำเลยในคดีฆาตรกรรมฆาตกรรมฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ และเดวิด มิลเลอร์ ซึ่งถูกฆาตกรรม เมื่อเช้าวันที่ 15 กันยายน 2557 ที่เกาะเต่า โดยชี้ว่าพยานหลักฐานดีเอ็นเอจากคราบอสุจิที่พบในตัวผู้ตายนั้นตรงกับจำเลยทั้ง 2 ราย ขณะที่ทีมทนายความของจำเลยเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ศาลให้เหตุผลว่า จากการพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์พบว่า ซึ่งใช้หลักฐานดีเอ็นเอที่พบในช่องคลอดและทวารหนักของผู้ตายที่ 2 ซึ่งเป็นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อันเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปตามหลักสากลว่าสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลได้เป็นอย่างดี ทั้งเป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่ เกิดขึ้นและได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนจับกุมจำเลยทั้งสอง ดังนั้นผลการตรวจดีเอ็นเอย่อมสามารถเชื่อมโยงและพิสูจน์ได้ว่าคนร้ายเป็นผู้ใด
จากการตรวจวัตถุพยานหลักฐานดังกล่าว ศาลชี้ว่า ดีเอ็นเอจากคราบอสุจิที่พบในช่องคลอดของผู้ตายตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยที่ 2 ขณะที่คราบอสุจิที่ช่องทวารหนักของผู้ตาย ตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้ง 2 คน โดยดีเอ็นเอมีค่าตำแหน่งตรงกันทั้ง 16 ตำแหน่ง และพยานโจทก์ผู้ทำการตรวจเก็บและนำเนื้อเยื่อของจำเลยทั้งสองไปตรวจได้จัดส่งไปพิสูจน์ทันทีทันใด
โจทก์ยังมีพยานบุคคลยืนยันว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ตายที่ 1 มามอบให้หลังช่วงเวลาเกิดเหตุไม่นาน อันเป็นหลักฐานยืนยันได้ส่วนหนึ่งว่าจำเลยที่ 2 ย่อมต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
จากพฤติการณ์ของจำเลยศาลชี้ว่าได้มีการสมคบกันในการร่วมกันผัดเปลี่ยนข่มขืนกระทำชำเราผู้ตายที่ 2 จึงเป็นความผิดฐานโทรมหญิง และจากบาดแผลของผู้ตายที่เป็นแผลฉกรรจ์และเข้ารอยกันได้กับใบจอบและสันจอบยังมีการตรวจพบคราบโลหิตของผู้ตายที่ 2 ที่สันจอบ เป็นหลักฐานที่เชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายที่ใช้จอบฟันและทุบตีผู้ตายที่ 2 จนเสียชีวิต
ขณะที่ลักษณะบาดแผลของจำเลยที่ 1 คือนายเดวิด มิลเลอร์นั้นเข้ารอยกันได้กับใบจอบและสันจอบ อีกทั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้นำเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ 1 ไปมอบให้พยานโจทก์ พฤติการณ์จึงเป็นที่เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนร้ายทำร้ายผู้ตายที่ 1
ในส่วนที่จำเลยทั้งสองเบิกความว่ามีการทรมานระหว่างการสอบสวนนั้น ศาลชี้ว่าจำเลยทั้งสองไม่มีพยานหลักฐานใดๆ มานำสืบได้ตามที่อ้าง พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิด และให้ลงโทษทุกกรรม คือ ร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 1 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนในลักษณะโทรมหญิง ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยทั้งสอง ส่วนความผิดอื่นๆ ได้แก่ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ให้จำคุกจำเลยที่ 2 กำหนด 2 ปี ความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรผิดกฎหมาย ให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 6 เดือน
นายนคร ชมพูชาติหัวหน้าทีมทนายความจำเลยเผยกับบีบีซีไทยว่าทีมทนายความจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยระยะเวลาอุทธรณ์คือ 30 วัน


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top