0

"ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน"
อันที่จริงนี่เป็นวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของทหารนะ แต่อีกด้าน ถ้ามีเรื่องอื้อฉาวก็มักจะพากันพังทั้งยวง
ที่บอกว่าเข้มแข็งเพราะข้าราชการสายอื่น มหาดไทย ตำรวจ ไม่มีวัฒนธรรมอย่างนี้ ตำรวจนี่ถ้าไม่ถือมีดไว้ข้างหลัง ไม่มีทางได้เป็นใหญ่ ทหารรักษาความเข้มแข็งได้เพราะถือว่าถ้าเข้าสนามรบต้องร่วมเป็นร่วมตาย ถ้าไว้ใจคนข้างหลังไม่ได้ก็ฉิบหายสิ
ระบบการแต่งตั้งโยกย้ายของทหารเข้มงวดมาก ระดับ ผบ.พัน ผู้การกรม จะไม่มีย้ายข้ามหัวข้ามห้วย คนที่เป็นจะต้องโตขึ้นมาในหน่วยนั้น ไม่มีหรอกที่รุ่นน้องจะข้ามหัวพี่ ถ้าพี่มันโหลยโท่ยเป็นไม่ได้ ก็ต้องย้ายไปตำแหน่งอื่น แล้วค่อยให้น้องขึ้น ไม่เหมือนตำรวจหรือมหาดไทยที่วิ่งเต้นกันได้ทั่วประเทศ (แต่วัฒนธรรมนี้ก็ดูเหมือนจะถูกทำลายไปเยอะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา)
ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ในด้านหนึ่งมันจึงซึ้งงงง เพราะเป็นวัฒนธรรมจากสนามรบ คนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมา ผูกพันกันชั่วชีวิต มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน ต้องรักกัน แต่จะเป็นปัญหาเมื่อเพื่อนเมื่อน้องเมื่อพี่เมื่อนาย ไปทำอะไรผิด ทหารด้วยกันจะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก (อ้าว ก็เหนื่อยยากเป็นตายมาด้วยกันเรื่องใหญ่กว่า) ขณะที่สังคมเห็นเป็นเรื่องใหญ่ ยกตัวอย่างสมัยก่อน ทหารยัวะตำรวจพาพวกบุกโรงพัก ทหารก็จะปกป้องกัน (ถ้าเป็นข้าราชการอื่นไล่ออกสถานเดียว)
ที่จริงนี่เป็นวัฒนธรรมทหารทั้งโลกนั่นละ เราดูหนังฝรั่งยังเห็น ทหารจะมองว่าพวกตัวเองสู้รบเดนตาย ไปมีเรื่องมีราวแหกคอกนิดๆ หน่อยๆ จะเป็นไร ในขณะที่สังคมเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก
ที่ต่างกันคือพอทหารมีอำนาจทางการเมือง ก้าวมาเป็นบุคคลสาธารณะ มันก็ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่เข้าไปอีก


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top