ตำรวจยูเครนเจ็บนับร้อย ปะทะผู้ประท้วงเรื่องให้อำนาจกลุ่มกบฏปกครองตนเอง
เกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างตำรวจยูเครนกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันด้านนอกอาคารรัฐสภา เพื่อต่อต้านการลงมติในร่างกฎหมายปฏิรูป ซึ่งจะเพิ่มอำนาจการปกครองตนเองให้ดินแดนที่กลุ่มกบฏยึดครองทางภาคตะวันออกของประเทศ การปะทะส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บราว 100 นาย ในจำนวนนั้น 10 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส
ข่าวระบุว่า มีการยิงจรวดออกมาจากกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่ถือแผ่นป้ายสนับสนุนพรรคสโวโบดา ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยมสุดโต่ง นอกจากนี้ยังมีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว และตำรวจหลายคนมีเลือดอาบเต็มตัว อีกทั้งมีรายงานว่า มีผู้สื่อข่าวที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บด้วย ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยบอกว่ามีผู้ถูกจับกุมแล้วราว 30 คน
เหตุรุนแรงเกิดขึ้นหลังจากสมาชิกรัฐสภายูเครนลงมติสนับสนุนแผนปฏิรูปที่จะเพิ่มอำนาจการปกครองตนเองบริเวณเมืองโดเนตสค์ และเมืองลูฮานสค์ ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งทั้งนี้การผลักดันให้เพิ่มอำนาจปกครองตนเองโดยทางการยูเครน เป็นไปตามเงื่อนไขสำคัญในข้อตกลงมินสค์ที่มีการลงนามเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
ด้านโฆษกรัฐสภา ย้ำว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปฉบับนี้ไม่ได้ให้สถานะพิเศษแก่เมืองโดเนตสค์ และเมืองลูฮานสค์ ซึ่งกลุ่มกบฏได้ประกาศเป็นสาธารณรัฐ ด้านประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน จะต้องขอเสียงสนับสนุนจาก สส. 300 เสียงจากทั้งหมด 450 เสียง หากต้องการผลักดันการปฏิรูปครั้งนี้ให้สำเร็จ ซึ่งหลายฝ่ายชี้ว่าเป็นงานหินสำหรับผู้นำยูเครน
การสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนและกลุ่มกบฏในช่วงฤดูร้อนปีนี้ได้ทวีความรุนแรงขึ้น แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม และเมื่อสัปดาห์ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงพักการสู้รบในวันที่ 1 ก.ย.ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมของเด็กๆในพื้นที่ แม้ว่าการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่ายจะลดลง แต่เจ้าหน้าที่ขององค์กร OSCE ซึ่งเฝ้าติดตามสถานการณ์กลับชี้ว่า ไม่มีฝ่ายไหนที่เคารพข้อตกลงหยุดยิง

video click
 
Top