เฟซบุ๊กประกาศมาตรการปราบคลิปวิดีโอเถื่อน
เฟซบุ๊กประกาศว่าจะนำเทคโนโลยีการเปรียบเทียบภาพวิดีโอมาใช้ เพื่อเตือนให้เจ้าของวิดีโอรู้ว่า มีผู้แอบเอาคลิปบางส่วนไปใช้และนำไปโพสต์ทางเฟซบุ๊กโดยที่เจ้าของวิดีโอต้นฉบับยังไม่อนุญาต
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกำลังพยายามส่งเสริมธุรกิจด้านวิดีโอของตน โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศเป็นครั้งแรกว่ามีแผนจะแบ่งรายได้จากการโฆษณาให้กับผู้ผลิตวิดีโอ แต่ฮังค์ กรีน ดาราคนหนึ่งทางช่องยูทูปวิจารณ์ว่า การจัดการกับปัญหาคลิปวิดีโอเถื่อนของเฟซบุ๊กนั้นล่าช้ามาก และก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมิถุนายน งานวิจัยชิ้นหนึ่งของโอกิลวี่ บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่พบว่า 73% ของวิดีโอยอดนิยมที่มีการโพสต์ทางเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาบางส่วนที่นำมาจากเว็บไซต์อื่น
ในการประกาศของเฟซบุ๊กครั้งนี้ เฟซบุ๊กบอกว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะประเมินภาพวิดีโอนับล้าน ๆ คลิปที่มีการอัพโหลดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และหากพบว่ามีคลิปไหนที่ซ้ำกับคลิปจากเว็บไซต์อื่น เจ้าของคลิปต้นฉบับดั้งเดิมสามารถแจ้งให้เฟซบุ๊กลบได้ แต่ในเบื้องต้น เทคโนโลยีนี้จะใช้ได้เพียงในกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะยังต้องมีการปรับปรุงเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับวิดีโอเถื่อนได้แล้ว บีบีซีเข้าใจว่ายังจะสามารถใช้ตรวจจับในกรณีที่เป็นการขโมยคลิปวิดีโอบางส่วนมาโดยที่เจ้าของวิดีโอต้นฉบับยังไม่อนุญาตได้ด้วย
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวบอกว่า ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีนี้จะต่างไปจากระบบตรวจสอบเนื้อหาของยูทูป ที่ไม่อนุญาตให้มีการอัพโหลดโดยอัตโนมัติเมื่อพบว่าเป็นวิดีโอเถื่อน แต่ระบบของทางเฟซบุ๊กจะแจ้งเตือนไปยังเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน และถามว่าต้องการให้ถอดวิดีโอดังกล่าวออกหรือไม่
แบรดลี ฮาราน เจ้าหน้าที่ของยูทูปบอกบีบีซีว่า ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงระบบของเฟซบุ๊กดีนัก เขาชี้ว่าช่วงสองสามชั่วโมงแรกที่มีการอัพโหลดวิดีโอ ถือว่าเป็นช่วงนาทีทอง เพราะเป็นช่วงที่มีคนเข้ามาดูมาก แต่หากจะต้องเสียเวลาไปกับการแจ้งเตือน ก็อาจพลาดโอกาสที่จะปิดกั้นการนำวิดีโอไปเผยแพร่ต่อได้ ดังนั้นเฟซบุ๊กจะต้องหาทางแก้ไขจุดบกพร่องตรงนี้
อย่างไรก็ตาม ทางเฟซบุ๊กบอกแต่เพียงว่า มีแผนจะพัฒนาระบบบริหารจัดการวิดีโอแบบครบวงจร และมุ่งมั่นที่จะจัดการกับปัญหาวิดีโอเถื่อนเท่านั้น
